เลขาฯ กพฐ.ชี้แจงกรณีผู้ปกครองแฉ ผอ.โรงเรียนดัง เรียก 4 แสน รับเข้า ม.1
จากกรณีที่สื่อมวลชนจำนวนมาก ได้เผยแพร่ข่าวการร้องเรียนจากผู้ปกครองจากภาคใต้รายหนึ่ง ได้นำคลิปจากกล้องวีดิทัศน์ขนาดเล็ก
เมื่อวันจันทร์ที่ 19 มิถุนายน 2560 ที่กระทรวงศึกษาธิการ, นายการุณ สกุลประดิษฐ์ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเกี่ยวกับความคืบหน้าประเด็นนี้ โดยกล่าวถึงผลการตรวจสอบในขณะนี้ว่า เป็นผู้บริหารโรงเรียนแห่งหนึ่งในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 1 โดยในเบื้องต้นได้รายงาน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ รับทราบแล้ว ซึ่ง นพ.ธีระเกียรติ ได้สั่งการให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดำเนินการอย่างเร่งด่วนแล้วตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา สพฐ. จึงได้สั่งการให้ ผอ.สพม.เขต 1 ตั้งคณะกรรมกรรมการสอบข้อเท็จจริงในขั้นตอนเบื้องต้นตามระบบ โดยในวันนี้ (19 มิถุนายน) คณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้ไปที่โรงเรียนดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ สพฐ. ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงจาก สพฐ.ไปด้วยส่วนหนึ่ง เพื่อที่จะไปช่วยกันสอบสวนและหาข้อมูลข้อเท็จจริงที่โรงเรียนดังกล่าวแล้ว อย่างไรก็ตามต้องรอข้อมูลจากผู้อำนวยการโรงเรียนรายดังกล่าวซึ่งเดินทางไปศึกษาดูงานที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์
ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo
ทั้งนี้ หากตรวจสอบแล้วพบว่าผู้อำนวยการโรงเรียนรายนี้กระทำความผิดตามที่โดนกล่าวหาจริง จะต้องถูกสอบวินัยอย่างร้ายแรงอย่างแน่นอน เพราะกรณีเช่นนี้หากผิดจริงถึงขั้นต้องถูกไล่ออกอย่างแน่นอนตามกฎหมายใหม่ ส่วนคำถามที่ว่าเบื้องต้นภายในสัปดาห์นี้จะทราบข้อมูลข้อเท็จจริงไหม นายการุณกล่าวว่าตอนนี้ยังตอบไม่ได้ เพราะต้องมีการสืบหาข้อเท็จจริง โดยคลิปนั้นมีข้อเท็จจริงที่ยืนยันว่าผู้อำนวยการโรงเรียนรายนี้ผิดได้หรือไม่นั้น เห็นว่าในการถ่ายคลิปต้องมีผู้เกี่ยวข้องอยู่ 2 ส่วนคือ ผู้ถ่ายคลิปจะต้องออกมาพูด
ต่อคำถามว่าในภาพรวมต่อจากนี้จะมีการเข้มงวดในเรื่องของแป๊ะเจี๊ยะมากขึ้นหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ออกมาตลอด นายการุณกล่าวว่า ข่าวก็ออกมาตลอด ซึ่งความจริงมีคนจำนวนไม่มาก แค่บางคน บางโรงเรียน แต่ส่วนมากก็ดีอยู่ ซึ่งโดยปกติโรงเรียนมัธยมศึกษาจะมีคณะกรรมการสถานศึกษา ซึ่งสามารถรับเงินบริจาคมาเพื่อช่วยเหลือโรงเรียนได้ตามกฎหมาย แม้จะไม่มากมาย แต่ก็สามารถช่วยเหลือโรงเรียนได้บ้าง ส่วนใบเสร็จรับเงินจากการบริจาคนั้น ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสถานศึกษา ไม่ใช่โรงเรียน เป็นใบเสร็จของคณะกรรมการสถานศึกษาที่จะออกให้
นายการุณ ยังตอบข้อซักถามเกี่ยวกับผลกระทบของเด็กที่เรียนอยู่ที่โรงเรียน ยืนยันว่าไม่มีอย่างเด็ดขาด และจะไม่ให้มีด้วย เพราะเด็กไม่เกี่ยวข้อง จะต้องให้เรียนอย่างดีเหมือนเดิม
สื่อมวลชนถามด้วยว่า หากตรวจสอบแล้วเรื่องนี้ไม่มีใบเสร็จจริงจะคืนเงิน 4 แสนให้ไหม นายการุณกล่าวว่า ต้องคืนอยู่แล้ว วินัยก็ต้องโดนอย่างร้ายแรงด้วย เพราะหากใครเอาไปใส่กระเป๋าตัวเองนี้มันต้องโดนอยู่แล้ว ส่วนนี้ไม่ต้องห่วง และเด็กก็จะไม่ได้รับการกระทบกระเทือนด้วย เป็นเรื่องที่เด็กไม่เกี่ยว จะต้องได้เรียนอย่างดีเหมือนเดิม
ที่มา : ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ