ข่าวการศึกษา

สรุปสถิติความคืบหน้าโครงการจัดทำระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนาครูแนวใหม่

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 364/2560
สรุปสถิติความคืบหน้าโครงการจัดทำระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนาครูแนวใหม่

จากการที่กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้หลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะและการพัฒนาข้าราชการครูแนวใหม่ “จากพระราชกระแสฯ … สู่การพัฒนาครูทั้งระบบ” เมื่อวันพุธที่ 5 กรกฎาคม 2560 พร้อมทั้งได้จัดตั้ง “สถาบันคุรุพัฒนา” เพื่อเป็นหน่วยงานในการพัฒนาครูแนวใหม่ โดยจัดหลักสูตรอบรมให้ครูสามารถเลือกได้ตามความต้องการ โดยครูจะได้รับงบประมาณอบรมคนละ 1 หมื่นบาทต่อปีนั้น

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

จากข้อมูลล่าสุดของสำนักพัฒนาครูและบุคลากรการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) นับตั้งแต่เปิดระบบลงทะเบียนและติดตามประเมินผลครูผู้เข้ารับการพัฒนา เมื่อวันที่ กรกฎาคม 2560 จนถึงวันที่ 11 กรกฎาคม 2560 ด้วยระยะเวลาเพียง วัน พบว่ามีจำนวนครูสนใจสมัครเข้ารับการอบรมแล้วจำนวน 192,621 คน มีจำนวนการลงทะเบียนอบรมหลักสูตร 197,750 คน โดยงบประมาณที่ผ่านการอนุมัติแล้วกว่า 23 ล้านบาท และยังมีงบประมาณที่รอการอนุมัติอีกกว่า 1,073 ล้านบาท

สำหรับหลักสูตรที่ครูเลือกเข้ารับการอบรมเพื่อพัฒนาตนเองนั้น ขณะนี้มีประมาณ 1,400 หลักสูตร ซึ่งหลักสูตรที่ได้รับความสนใจลงทะเบียนอบรมมากที่สุด 5 อันดับแรก คือ หลักสูตรส่งเสริมและสนับสนุนเพื่อยกระดับทักษะพัฒนาการจัดการศึกษาในสื่อการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ หลักสูตรฝึกอบรมและการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาจากสื่อธรรมชาติ หลักสูตรการพัฒนาสมรรถนะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ หลักสูตรการเสริมสร้างสมรรถนะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้การอ่านออกเขียนเชิงวิเคราะห์วิชาภาษาไทย และหลักสูตรการพัฒนาการจัดกิจกรรมโดยใช้กิจกรรมโครงงาน ตามลำดับ

หลักสูตรที่มีการลงทะเบียนที่นั่งสำรองมากที่สุด เป็นหลักสูตร BBL ออกแบบการสอน เกี่ยวกับวิชาภาษาไทย อังกฤษ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และ STEM

หน่วยงานจัดอบรมที่มีการลงทะเบียนอบรมมากที่สุด คือ ศูนย์บริการวิชาการ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ รองลงมา คือ อมรินทร์บุ๊คเซ็นเตอร์, วิทยาลัยการศึกษา มหาวิทยาลัยพะเยา, มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี ตามลำดับ

เขตพื้นที่การศึกษาที่มีการลงทะเบียนมากที่สุดในเวลานี้ คือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 (เชียงราย-พะเยา) รองลงมาคือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) เชียงใหม่ เขต 3, สพม.เขต 34 (เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน), สพป.เชียงราย เขต และ สพป.สกลนคร เขต ตามลำดับ โดยจังหวัดที่มีการจัดอบรมมากที่สุด อยู่ที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดพิษณุโลก และจังหวัดลำปาง ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม ครูที่จะเข้าสมัครการอบรม ควรตรวจสอบระบบอีเมลของตนเองด้วยว่า ถูกต้อง หรือเป็นปัจจุบัน และควรตรวจสอบการตั้งสถานะ SPAM (หรืออีเมลขยะ) ของอีเมลไว้ด้วย เพราะมีจำนวนอีเมลที่ถูกตีกลับมากถึง 26,691 ฉบับ

ด้าน นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า กระทรวงศึกษาธิการได้เตรียมงบประมาณเพื่อใช้ในการอบรมพัฒนาครูดังกล่าวประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับแต่ละปีที่ผ่านมา ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการใช้งบประมาณในการอบรมประชุมสัมมนาครูกระจายไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต่าง ๆ รวมแล้วนับหมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ มีผู้เข้าชมเว็บไซต์ “สำนักพัฒนาครูและบุคลากรการศึกษาขั้นพื้นฐาน สพฐ.” จำนวนมากกว่า 438,000 ครั้งแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก เพราะแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงการปฏิรูปการศึกษาที่สำคัญ ว่าการมีวิทยฐานะและการพัฒนาครูต้องมีการบูรณาการไปพร้อมกัน จึงจะเกิดประสิทธิภาพ ส่วนที่มีข้อห่วงใยว่าอาจจะมีการเปิดธุรกิจจัดหลักสูตรอบรมครูนั้น คิดว่าคงไม่มี เนื่องจากแต่ละหลักสูตรจะมีเสียงสะท้อนจากครูด้วยกันเองว่าอบรมดีหรือไม่อย่างไร เพราะครูเป็นผู้เลือกหลักสูตรเอง และทุกหลักสูตรจะต้องผ่านการประเมินจากสถาบันคุรุพัฒนาเพื่อให้มีมาตรฐานอีกด้วย

ที่มา : ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button