ข่าวการศึกษา

มติ ครม. ให้ ก.พ.หารือกับองค์กรกลางของข้าราชการฯ เรื่องการสอบภาค ก เพื่อให้แนวทางในการเลือกสรรบุคคลเข้ารับราชการเป็นมาตรฐานเดียวกัน

วันนี้เว็บไซต์ thaigov.go.th ได้นำเสนอ  ข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี 29 ตุลาคม 2562  ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาดังนี้

8. เรื่อง  รายงานผลการดำเนินการของสำนักงาน ก.พ. เรื่อง การพัฒนาระบบการสอบวัดความรู้ ความสามารถทั่วไปให้เป็นมาตรฐานเดียวกันสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภท
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบ ดังนี้

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

  1. รับทราบการพัฒนาระบบการสอบวัดความรู้ความสามารถทั่วไปให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน สำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภทตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
  1. ให้ สำนักงาน ก.พ. หารือร่วมกับองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของข้าราชการประเภทต่าง ๆ

ที่อยู่ภายใต้กำกับของฝ่ายบริหาร ได้แก่  สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา  สำนักงานคณะกรรมการมาตรฐานการบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น  สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร และสำนักงานตำรวจแห่งชาติถึงความจำเป็น  เหมาะสม และความเป็นไปได้ในการดำเนินการตามประเด็นต่าง ๆ  ให้ได้ข้อยุติก่อนดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปในประเด็น  ดังนี้ (1)  การนำหลักสูตรการสอบและเกณฑ์การตัดสินการสอบผ่านการสอบภาค ก. ตามแนวทางของสำนักงาน ก.พ. ไปปรับใช้เป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรการสอบและการตัดสินการสอบผ่านฯ ของหน่วยงานตนเอง เพื่อให้แนวทางในการเลือกสรรบุคคลเข้ารับราชการเป็นมาตรฐานเดียวกัน และ (2) การนำหนังสือรับรองผลการสอบผ่านการสอบภาค ก. ของสำนักงาน ก.พ. ไปใช้แทนผลการสอบผ่านการสอบภาค ก. ของหน่วยงานตนเองได้  ทั้งนี้ ให้นำความเห็นและข้อสังเกตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาร่วมด้วย
          สาระสำคัญของเรื่อง
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน  (สำนักงาน ก.พ.) เสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบผลการดำเนินการของสำนักงาน ก.พ. เกี่ยวกับการพัฒนาระบบการสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไป (การสอบภาค ก.) ให้เป็นมาตรฐานเดียวกันสำหรับเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภท  ทั้งนี้  สามารถสรุปผลการดำเนินการ รวมทั้งหลักสูตรและเกณฑ์การตัดสินการสอบผ่านการสอบภาค ก. ของสำนักงาน ก.พ. ได้ดังนี้

หัวข้อรายละเอียด
รูปแบบการดำเนินการจัดการสอบภาค ก.– การดำเนินการสอบภาค ก. ประจำปีงบประมาณ จะเปิดรับสมัครสอบช่วงเดือนกุมภาพันธ์หรือเดือนมีนาคมและดำเนินการจัดสอบในเดือนมิถุนายนหรือเดือนกรกฎาคมตามศูนย์สอบทั่วประเทศทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
– การดำเนินการสอบภาค ก. ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์  จะเปิดรับสมัครสอบเฉพาะระดับปริญญาตรีและปริญญาโทตลอดทั้งปี โดยที่ผ่านมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2559 – 2561 มีจำนวนผู้สมัครสอบรวมทั้งสิ้น 3,840 คน มีผู้มาสอบ 3,059 คน มีผู้สอบผ่าน จำนวน 367 คน คิดเป็นร้อยละ 12 ของผู้เข้าสอบ
– การดำเนินการสอบภาค ก. สำหรับส่วนราชการ เป็นการจัดสอบภาค ก. ให้แก่ผู้สอบที่สอบผ่านการสอบภาค ข. หรือการสอบภาค ค. เพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการของส่วนราชการต่าง ๆ
– หลักสูตรและเกณฑ์การตัดสินการสอบผ่านการสอบภาค ก.

หลักสูตรการสอบภาค ก.เกณฑ์การตัดสินการสอบผ่านการสอบภาค ก.
– วิชาความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ได้แก่
(1) การวิเคราะห์เชิงภาษา เช่น การใช้ภาษาไทยเพื่อการสื่อสาร  ความเข้าใจในการอ่านภาษาไทย
(2) การวิเคราะห์เชิงนามธรรม  เช่น การคิดหาความสัมพันธ์เชื่อมโยงคำ  การหาข้อสรุปอย่างสมเหตุสมผลจากข้อความ สัญลักษณ์ และ (3) การคิดวิเคราะห์เชิงปริมาณ  เช่น การแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์เบื้องต้น
– วิชาภาษาอังกฤษ

– วิชาความรู้และลักษณะการเป็นข้าราชการที่ดี

– ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ในระดับต่ำกว่าปริญญาตรีและปริญญาตรีและไม่ต่ำกว่าร้อยละ 65 ในระดับปริญญาโท

– ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ในทุกระดับ/ใช้ผลคะแนนภาษาอังกฤษอื่นแทนได้
– ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 ในทุกระดับ

สถิติจำนวนผู้สมัครสอบและผู้สอบผ่านการดำเนินการสอบภาค ก. ที่สำนักงาน ก.พ. เป็นผู้ดำเนินการจัดสอบทั้งหมดในแต่ละปีจะมีผู้สมัครสอบจำนวนประมาณ 500,000 – 600,000 คน โดยจากข้อมูลสถิติผู้สอบผ่านการสอบภาค ก. ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537  – 2561 พบว่า มีผู้มีที่ได้รับหนังสือรับรองผลการสอบผ่านทั้งหมด  จำนวน 572,860 คน แบ่งเป็น
– ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) จำนวน 16,852 คน
– ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) / ประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.)/อนุปริญญา จำนวน 86,842 คน
– ระดับปริญญาตรี จำนวน 446,666 คน
– ระดับปริญญาโท จำนวน 22,500 คน
นอกจากนี้ ปัจจุบันมีหน่วยงานรัฐหลายแห่ง ซึ่งรวมถึงสำนักงาน ก.ก. ได้ทำความตกลงร่วมกับสำนักงาน ก.พ. ในการนำหนังสือรับรองผลการสอบผ่านการสอบภาค ก. ของสำนักงาน ก.พ. ไปใช้ในการสมัครสอบภาค ข. ของหน่วยงานด้วยแล้ว
แนวทางการใช้หนังสือรับรองผลการสอบผ่าน การสอบภาค ก.ผู้ที่สอบผ่านการสอบภาค ก. จะได้รับหนังสือรับรองผลการสอบผ่าน โดยผู้สอบผ่านสามารถนำหนังสือรับรองผลฯ ไปใช้ในขั้นตอนของการสอบภาค ข. และการสอบภาค ค. ซึ่งดำเนินการโดยส่วนราชการต่อไป
ประโยชน์การนำหนังสือรับรองผลฯ ไปใช้กับหน่วยงานรัฐประเภทอื่นจะสามารถทำให้ประหยัดงบประมาณในการดำเนินการสอบ  และเป็นประโยชน์ต่อประชาชนที่ไม่ต้องสอบเพื่อวัดความรู้ความสามารถทั่วไปหลายครั้ง

 

ที่มา : เว็บไซต์ รัฐบาลไทย

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button