ข่าวการศึกษา

เล็งรวมขอวิทยฐานะเหลือรูปแบบเดียว

รศ.นพ.กำจร  ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า  ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) มีมติให้ทบทวนหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามี วิทยฐานะ หรือ เลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ตามข้อตกลงในการพัฒนางาน หรือ PA (Performance Agreement) เนื่องจากเห็นว่าหลักเกณฑ์ดังกล่าวเป็นการประเมินด้วยการสอบทางวิชาการมาก เกินไป จึงให้ปรับวิธีประเมินไปยึดผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาของผู้เรียนเป็นหลักนั้น ขณะนี้ ก.ค.ศ.ได้ประชุมในประเด็นดังกล่าวแล้ว  ทราบว่ามีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย โดยเฉพาะการทำงานของครูบางคนที่ต้องดูแลเด็กพิเศษ เช่น เด็กออทิสติกที่มีอารมณ์แปรปรวน และต้องดูแลทั้งวันทั้งคืน ครูจึงต้องมีความอดทน แม้กระทั่งโดนเด็กตบหน้าก็ไม่โกรธ ซึ่งถือว่าครูเหล่านี้มีจิตวิญญาณแห่งความเป็นครูอย่างแท้จริงโดยไม่หวังการ ขอวิทยฐานะจึงอาจใช้การทำงานตรงนี้เป็นช่องทางหนึ่งในการเข้าสู่วิทยฐานะได้ เช่นกัน ไม่ใช่ดูที่ผลงานทางวิชาการเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นว่าการประเมิน PA ไม่ควรมีคำว่ามาตรฐานกลาง แต่ควรให้เป็นข้อตกลงตามสภาพการทำงานจริงของแต่ละโรงเรียน   เพราะการทำงานในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกัน ดังนั้นการประเมินความยากง่าย จึงต้องแตกต่างกันไปด้วย

รศ.นพ.กำจร กล่าวต่อไปว่า ในการประชุม ก.ค.ศ. วันที่ 24 ก.ย.นี้ ตนจะสรุปรายละเอียดทั้งหมดให้ที่ประชุมรับทราบ และจะเสนอให้เลื่อนการประกาศหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินPA หรือ ว.7 ออกไปโดยไม่มีกำหนด เพื่อรอจัดทำหลักเกณฑ์ใหม่ให้แล้วเสร็จก่อน

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

โดยระหว่างนี้ครูสามารถขอรับการประเมินผ่านหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการ ครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนวิทยฐานะชำนาญการพิเศษ และวิทยฐานะเชี่ยวชาญทุกตำแหน่ง หรือ ว.13 และหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะและ เลื่อนวิทยฐานะ หรือ ว.17ไปก่อน

และในอนาคตอาจจะมีการรวบรวมข้อดีข้อเสียของ ว.13 และ ว.17 มารวมไว้ให้เหลือการประเมินเพียงรูปแบบเดียว

อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/education/349683

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button