ข่าวการศึกษา
สพฐ. เร่งหารือสำนักงบ-กรมบัญชีกลาง ปมจ้างเหมาธุรการโรงเรียน
สพฐ. เร่งหารือสำนักงบ-กรมบัญชีกลาง ปมจ้างเหมาธุรการโรงเรียน
วันที่ 1 ตุลาคม 2567 ว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่สมาพันธ์เจ้าหน้าที่ธุรการแห่งประเทศไทย ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง ขอยกเลิกจ้างเหมาบริการผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการโรงเรียน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยระบุว่า สำนักงบประมาณได้แจ้งกรอบการจัดสรรงบประมาณโดยไม่ได้จัดสรรเงินสมทบกองทุนประกันสังคม และให้ปรับวิธีการจ้างเป็นวิธีการจ้างเหมาบริการ ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 พร้อมทั้งแจ้งบัญชีจัดสรรธุรการโรงเรียน อัตราละ 15,000 บาท และอัตราละ 9,000 บาท พร้อมทั้งได้นัดหมายการขับเคลื่อนเพื่อขอยกเลิกวิธีการจ้างเหมาบริการ ในวันอังคารที่ 8 ตุลาคม 2567 ณ บริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ นั้น
ว่าที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวว่า สำหรับประเด็นดังกล่าว สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้รับทราบปัญหาและความต้องการแล้ว และไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยได้ทำหนังสือหารือเร่งด่วนเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2567 ที่ผ่านมากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมบัญชีกลาง และสำนักงบประมาณ ซึ่งเป็นผู้ออกระเบียบในการจ้างผู้ปฏิบัติงานและจัดสรรเงินงบประมาณฯ ตามลำดับ โดยขอหารือใน 4 ประเด็น ได้แก่
1) การจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการดังกล่าวถือเป็นการจ้างลูกจ้างชั่วคราวหรือการจ้างเหมาบริการตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และการจ้างเอกชนดำเนินงาน ซึ่งส่วนราชการต้องดำเนินการเป็นไปตามนัยของหนังสือที่อ้างถึง
2) การจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการดังกล่าว สพฐ. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา ในฐานะผู้ว่าจ้างสามารถจ่ายเงินสมทบในส่วนของนายจ้างเข้ากองทุนประกันสังคมได้หรือไม่
3) หาก สพฐ. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาในฐานะผู้ว่าจ้าง ไม่สามารถจ่ายเงินสมทบในส่วนของนายจ้างเข้ากองทุนประกันสังคม ตามข้อ 2 สพฐ. สามารถขอเงินเพิ่มเพื่อจ่ายเงินในส่วนของผู้ว่าจ้างได้หรือไม่ และ
4) สพฐ. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาในฐานะผู้ว่าจ้าง ต้องจ่ายอัตราค่าแรงขั้นต่ำและอัตราเงินเดือนให้กับผู้ปฏิบัติงานให้ราชการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ที่ได้เห็นชอบรายงานผลการศึกษาตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 (เรื่อง การปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำและการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ) และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.ศ. 2567 ได้หรือไม่
โดยขอให้กรมบัญชีกลางตอบข้อหารือดังกล่าวภายในวันที่ 4 ตุลาคม 2567 เพื่อที่ สพฐ. จะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
1) การจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการดังกล่าวถือเป็นการจ้างลูกจ้างชั่วคราวหรือการจ้างเหมาบริการตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 และการจ้างเอกชนดำเนินงาน ซึ่งส่วนราชการต้องดำเนินการเป็นไปตามนัยของหนังสือที่อ้างถึง
2) การจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการดังกล่าว สพฐ. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา ในฐานะผู้ว่าจ้างสามารถจ่ายเงินสมทบในส่วนของนายจ้างเข้ากองทุนประกันสังคมได้หรือไม่
3) หาก สพฐ. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาในฐานะผู้ว่าจ้าง ไม่สามารถจ่ายเงินสมทบในส่วนของนายจ้างเข้ากองทุนประกันสังคม ตามข้อ 2 สพฐ. สามารถขอเงินเพิ่มเพื่อจ่ายเงินในส่วนของผู้ว่าจ้างได้หรือไม่ และ
4) สพฐ. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาในฐานะผู้ว่าจ้าง ต้องจ่ายอัตราค่าแรงขั้นต่ำและอัตราเงินเดือนให้กับผู้ปฏิบัติงานให้ราชการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2566 ที่ได้เห็นชอบรายงานผลการศึกษาตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2566 (เรื่อง การปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำและการปรับอัตราเงินเดือนสำหรับกลุ่มข้าราชการพลเรือนและเจ้าหน้าที่ของรัฐ) และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการเบิกจ่ายเงินเพิ่มการครองชีพชั่วคราวของข้าราชการและลูกจ้างประจำของส่วนราชการ พ.ศ. 2567 ได้หรือไม่
โดยขอให้กรมบัญชีกลางตอบข้อหารือดังกล่าวภายในวันที่ 4 ตุลาคม 2567 เพื่อที่ สพฐ. จะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
“ด้วยประเด็นที่เกิดขึ้นนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ สพฐ. โดยตรง เนื่องจากเป็นระเบียบที่กรมบัญชีกลางกำหนด และสำนักงบประมาณเป็นผู้จัดสรรเงิน แต่ สพฐ. ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ด้วยว่าระเบียบดังกล่าวจะส่งผลกับการจ้างงานตำแหน่งลูกจ้าง ซึ่งอาจมีผลกระทบกับการปฏิบัติงานของ ลูกจ้าง ทุกตำแหน่ง ของ สพฐ.ซึ่งมี มากกว่า 6 หมื่นรายทั่วประเทศ
ทั้งนี้ สพฐ. ได้ทำหนังสือหารือไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และรอคำตอบอยู่ หากมีความคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้ทราบต่อไป” เลขาธิการ กพฐ. กล่าว
ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo