ข่าวการศึกษา

ห้องเรียนกีฬา

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 370/2559
ห้องเรียนกีฬา

รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า จากการที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.) รวมทั้งสถาบันการพลศึกษา ได้มีการลงนามความร่วมมือเปิดสอนห้องเรียนกีฬา เมื่อวันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม 2559 ที่โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย โดยเปิดรับสมัครนักเรียนที่กำลังเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จากทั่วประเทศ เพื่อเข้าเรียนแผนการเรียนวิทยาศาสตร์-กีฬา และศิลป์-กีฬา ตั้งแต่ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 เป็นต้นไป

โดยระยะแรกเปิดห้องเรียนกีฬาในภูมิภาคต่างๆ จำนวน 3 โรงเรียนๆ ละ 80 คน ได้แก่ ภาคเหนือ ที่โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม จ.สุโขทัย, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่โรงเรียนสารคามพิทยาคม จ.มหาสารคาม, ภาคใต้ ที่โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย กระบี่ จ.กระบี่ ในกีฬาประเภทฟุตบอล (ชาย) และวอลเลย์บอล (หญิง) เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะด้านการกีฬา โดยผู้ฝึกสอนที่มีประสบการณ์ระดับชาติและนานาชาติ มีการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์การกีฬาด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย ตลอดจนมีหอพักนอนและสถานที่ฝึกซ้อมกีฬาไว้รองรับ จบระดับมัธยมศึกษาตอนปลายแล้วจะได้รับสิทธิ์ในการเรียนต่อสถาบันพลศึกษาในระดับปริญญาตรี ซึ่งได้ประกาศรับสมัครตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีจำนวนนักเรียนที่สนใจสมัครเข้าเรียนในห้องเรียนกีฬา จำนวนทั้งสิ้น 1,050 คน แยกเป็น
– โรงเรียนสุโขทัยวิทยาคม 553 คน แยกเป็นฟุตบอลชาย 386 คน วอลเลย์บอลหญิง 167 คน
– โรงเรียนสารคามพิทยาคม 352 คน แยกเป็นฟุตบอลชาย 207 คน วอลเลย์บอลหญิง 145 คน
– โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัยกระบี่ 145 คน แยกเป็นฟุตบอลชาย 128 คน วอลเลย์บอลหญิง 17 คน

ทั้งนี้ จะมีการพิจารณาคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนโครงการห้องเรียนกีฬา ตามเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด คือ การทดสอบสมรรถภาพทางกาย และความสามารถทางด้านกีฬาที่สมัคร รวมทั้งการสัมภาษณ์ จึงได้ย้ำนโยบายการคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนด้วยว่า ขอให้คณะกรรมการการสอบคัดเลือกดำเนินการจัดสอบด้วยความสุจริต โปร่งใส เป็นธรรมกับทุกคน ตรวจสอบได้ และคัดเลือกนักเรียนเข้าเรียนได้ตรงตามวัตถุประสงค์ของการเปิดห้องเรียนกีฬา คือ การนำการกีฬาเข้าสู่ระบบการศึกษา และเป็นการพัฒนาศักยภาพของเด็กไทยให้มีความเป็นเลิศด้านกีฬาไปยังภูมิภาคต่างๆ หรือประกอบอาชีพด้านกีฬาได้ รวมทั้งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนด้านกีฬาของประเทศ

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

ที่มา : ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button