ข่าวการศึกษา

“บิ๊กตู่”พอใจแผนแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก

“ดาว์พงษ์”เผย ซูเปอร์บอร์ดการศึกษาเห็นชอบหลักการแผนการศึกษาแห่งชาติ พร้อมรับทราบแนวทางแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็ก ขณะที่“ประยุทธ์”พอใจแผนการแก้ปัญหาแต่ให้เร่งดำเนินการให้เร็ว

วันนี้(21พ.ย.)พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการศึกษา หรือ ซูเปอร์บอร์ดด้านการศึกษา ที่มี พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานว่า ที่ประชุมได้เห็นชอบในหลักการแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560-2574 แต่ได้ตั้งข้อสังเกตให้กระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.)กลับมาปรับปรุงในรายละเอียดให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เช่น เรื่องความต้องการกำลังคนในปัจจุบันกับอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งนายกฯต้องการทราบจำนวนที่ชัดเจน เพื่อวางแผนการผลิตให้ตรงกับความต้องการ ซึ่งเมื่อปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพื่อให้ความเห็นชอบ จากนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องทำแผนรองรับแผนการศึกษาแห่งชาติ ภายใน 30 วันต่อไป

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

รมว.ศธ.กล่าวต่อไปว่า ศธ.ยังได้นำเสนอความคืบหน้าการแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า 120 คน โดยสร้างโรงเรียนแม่เหล็กตามโครงการโรงเรียนดีใกล้บ้าน ซึ่งวางแผนว่า ในปี 2564 จะยุบโรงเรียนขนาดเล็กให้ได้  7,000 โรง ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณได้ถึง 5,000-6,000 ล้านบาท ซึ่งนายกฯพอใจแต่อยากให้เร่งดำเนินการให้เร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้ แต่นายกฯก็ได้แสดงความเป็นห่วงเรื่องการนำแผนการแก้ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กไปสู่การปฏิบัติ โดยได้ย้ำให้ ศธ.ไปทำแผนดำเนินการว่า ในปี 60-61 จะขับเคลื่อนอะไรให้ออกมาเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมบ้าง ซึ่ง ศธ.ได้รับที่จะดำเนินการให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น  เพื่อให้รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาสานต่อได้อย่างชัดเจน

“นอกจากนี้ ศธ.ยังได้รายงานความคืบหน้าการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษา ซึ่งได้มีการแก้กฏเกณฑ์ของคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) 21 เกณฑ์ กติกาของคุรุสภา 8 เรื่อง  คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) 7 เรื่อง และคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ตาม ม.44 อีก 19 คำสั่ง และในเร็วๆนี้อาจมีเพิ่มอีก 3 คำสั่ง คือ การจัดตั้งคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(อ.ก.ค.ศ.สพฐ.) การยุบรวมคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.)กระทรวง ที่มีอยู่ใน 5 องค์กรหลักให้เหลือเพียงคณะเดียว และการเพิ่มตำแหน่งผู้ตรวจราชการ ศธ.อีก 6 ตำแหน่ง รวมกับที่มีอยู่แล้ว 12 ตำแหน่ง เป็น 18 ตำแหน่ง เพื่อมอบให้ปฏิบัติหน้าที่ศึกษาธิการภาค แต่เนื่องจากได้หารือกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน(ก.พ.)แล้วไม่สามารถทำได้ จึงต้องใช้ ม.44”พล.อ.ดาว์พงษ์กล่าว…
อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/education/537883

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button