ข่าวการศึกษา

ก.ค.ศ.มีมติปรับปรุงหลักเกณฑ์การย้ายครู

ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 12/2559 เมื่อวันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม 2559 ณ ห้องประชุม 5 ชั้น 1 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ

ที่ประชุมพิจารณาการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการย้ายครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยได้นำเสนอ 4 หลักเกณฑ์ ได้แก่ ปรับให้สอดคล้องกับบริบทของการบริหารงานบุคคลของ กศจ., เพื่อให้มีครูไปปฎิบัติการสอนทันก่อนเปิดภาคเรียน, เพื่อให้สามารถนำตำแหน่งว่างภายหลังการย้าย มาใช้บรรจุและแต่งตั้งผู้สอบแข่งขันและผู้ได้รับคัดเลือก ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อให้ สพฐ. สามารถกำกับดูแลการดำเนินงานเชิงนโยบายได้อย่างเหมาะสม และทำให้การดำเนินการมีความยืดหยุ่นคล่องตัว โดยมีสาระสำคัญอยู่ 7 ประเด็น คือ

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

1. คุณสมบัติของผู้ขอย้ายกรณีปกติ เดิมกำหนดให้ “ปฏิบัติงานสอนในสถานศึกษาปัจจุบันติดต่อกันไม่น้อยกว่า 24 เดือนนับถึงวันที่คำขอ” เปลี่ยนเป็น “…นับถึงวันสุดท้ายที่กำหนดให้ยื่นคำร้องขอย้าย”

2. ระยะเวลาการยื่นคำร้องขอย้าย ปรับเป็น ให้ยื่นคำร้องขอย้ายปีละ 1 ครั้งเช่นเดิม ภายในเดือนมกราคม มีกำหนด 15 วัน ซึ่ง สพฐ.จะเป็นหน่วยงานรับผิดชอบกำหนดปฏิทินการยื่นคำร้องขอย้ายให้ตรงกันทั่วประเทศ

3. ระยะเวลาการพิจารณาย้าย กำหนดให้มี 2 ครั้ง คือครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 15 มีนาคม เพื่อให้มีครูไปปฏิบัติงานสอนทันกับการเปิดภาคเรียน และครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 15 กันยายน ถึงวันที่ 15 ตุลาคม เพื่อสามารถบรรจุและแต่งตั้งทดแทนอัตรากำลังเกษียณอายุราชการได้อย่างรวดเร็ว

4. การกำหนดองค์ประกอบการย้าย เดิมดูจากองค์ประกอบ 7 เรื่อง เช่น ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ ลำดับสถานศึกษาที่ขอย้าย เวลาที่ดำรงตำแหน่ง ความยากลำบากในการปฏิบัติงาน เหตุผลการขอย้าย ความอาวุโส ความเห็นกรรมการสถานศึกษา เป็นต้น ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าควรคง 7 องค์ประกอบนี้ไว้ดังเดิม แต่ที่ผ่านมาพบว่าแต่ละจังหวัดมีตัวชี้วัดและคะแนนพิจารณาแตกต่างกัน ที่ประชุมจึงมอบหมายให้ สพฐ. กำหนดรายละเอียดของตัวชี้วัดและองค์ประกอบในการย้าย ตามกรอบของ ก.ค.ศ. เพื่อใช้เป็นเกณฑ์เดียวกันทั้งประเทศ โดยจะกำหนดรายละเอียดให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้

5. การเกลี่ยอัตรากำลัง ที่ผ่านมาพบว่าในจังหวัดเดียวกัน แต่ละพื้นที่จะเกลี่ยอัตรากำลังจากเขตที่ครูเกินไปเขตที่ครูน้อยได้ยาก ที่ประชุมจึงมีมติเป็นแนวปฏิบัติว่า ให้อำนาจ กศจ.ในการเกลี่ยทั้งตำแหน่งละอัตราเงินเดือนได้ตามกรอบที่ ก.ค.ศ. กำหนด ส่วนการย้ายเพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ของราชการ ให้เป็นอำนาจของศึกษาธิการจังหวัดเสนอ

6. การกำหนดระยะเวลาการส่งคำร้องขอย้าย ให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จตามปฏิทินที่ สพฐ.กำหนด

7. เงื่อนไขการส่งสำเนาคำสั่งย้าย ต้องแจ้งผลการย้ายภายใน 7 วัน

นอกจากนี้ คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ได้แจ้งมติ ครม.เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 เห็นชอบการงดเว้นเงื่อนไขการจัดสรรอัตราว่างจากผลการเกษียณอายุราชการของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เมื่อ 2558 คืนให้กับโรงเรียนประถมและโรงเรียนขยายโอกาสที่มีจำนวนนักเรียนตั้งแต่ 120 คนขึ้นไป จากเดิมกำหนดไว้ที่ 250 คน ส่งผลให้ สพฐ.ได้ครูคืนมา 1,085 อัตรา ในจำนวนโรงเรียน 922 โรงเรียน เพื่อมาบรรจุแต่งตั้งต่อไป

เอกสารแนบ : เกณฑ์ย้ายครู 2559

ที่มา : การบริหารงานบุคคลและการขับเคลื่อนการทำงานของ ศธ. ตามคำสั่ง คสช.

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button