ข่าวการศึกษา

ผลประชุม ก.ค.ศ. 1/2558

ศึกษาธิการ – พลเรือเอก ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 1/2558  เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 8 มกราคม 2558 ที่ห้องประชุมราชวัลลภ

ผลประชุม ก.ค.ศ. 1/2558
ผลประชุม ก.ค.ศ. 1/2558

n อนุมัติให้สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ขยายเวลาการแจ้งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง การดำเนินการให้ได้มาของอนุกรรมการผู้แทนคุรุสภาใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้น 169 เขต ออกไปอีก 30 วัน นับแต่วันที่ครบกำหนดระยะเวลาตามที่ ก.ค.ศ. กำหนดไว้ จากวันที่ 20 ธันวาคม 2557 เป็นวันที่ 19 มกราคม 2558 เนื่องจากต้องมีการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 169 เขต และผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องใช้เวลาพอสมควร

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

เห็นชอบในหลักการ เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement) โดยสาระสำคัญของหลักเกณฑ์ดังกล่าว สรุปดังนี้

กำหนดคุณสมบัติผู้ขอรับการประเมิน ดังนี้

1) ผู้ขอ สามารถยื่นคำขอได้ก่อนที่จะดำรงวิทยฐานะครบตามที่กำหนดในมาตรฐานวิทยฐานะ ได้ก่อนไม่เกิน 2 ปี

2) มีภาระงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบตามที่ส่วนราชการกำหนด

3) ผ่านการพัฒนาจากส่วนราชการ 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ความรู้ความสามารถเชิงทฤษฎี ส่วนที่ 2 ประสบการณ์วิชาชีพ โดยผลการพัฒนาฯ ให้ใช้เป็นคุณสมบัติในการขอเลื่อนวิทยฐานะไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่ประกาศผลการทดสอบ

4) มีข้อตกลงในการพัฒนางาน โดยต้องมีระยะเวลาในการพัฒนางานไม่น้อยกว่า 2 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี

5) ต้องได้รับการรับรองว่าเป็นผู้มีวินัย คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ จากผู้บังคับบัญชาชั้นต้น

– ผ่านการประเมิน 2 ด้าน คือ

ด้านที่ 1 ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ

ด้านที่ 2 ด้านที่ 2 การพัฒนางานตามข้อตกลง ซึ่งประกอบด้วย

1) การพัฒนางานและผลการพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติงาน พิจารณาจากความสามารถในการปฏิบัติงานในหน้าที่ประจำ และผลที่เกิดกับผู้เรียนหรือคุณภาพผู้เรียน

2) การพัฒนาตนเอง พิจารณาจากแผนการพัฒนาตนเองที่สอดคล้องกับงานหรือเรื่องที่จะทำการพัฒนา

ให้มีกรรมการ 2 ชุด

คณะกรรมการชุดที่ 1 ทำหน้าที่พิจารณาข้อตกลงในการพัฒนางานและประเมินสรุปผลการพัฒนางานตามข้อตกลง เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่กำหนดตามข้อตกลง

คณะกรรมการชุดที่ 2 ทำหน้าที่ประเมินเพื่อพัฒนาเป็นระยะๆ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงตลอดระยะเวลาของการพัฒนางานตามข้อตกลง

– เกณฑ์การตัดสิน   ผู้ผ่านเกณฑ์การประเมินต้องได้คะแนนแต่ละด้าน ดังนี้

1) ด้านที่ 1 ด้านวินัย คุณธรรม ต้องได้คะแนนจากผู้บังคับบัญชาชั้นต้น วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75

2) ด้านที่ 2 ด้านการพัฒนางานตามข้อตกลง ต้องได้คะแนนจากกรรมการแต่ละชุด แต่ละคน ดังนี้ วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75

– กำหนดให้ยื่นคำขอได้ปีละ 1 ครั้ง 2 ช่วงเวลา คือ ก่อนภาคเรียนที่ 1 และก่อนภาคเรียนที่ 2  ก่อนเปิดภาคเรียนไม่น้อยกว่า 90 วัน

สำหรับรายละเอียดตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว จะได้พิจารณาในการประชุม ก.ค.ศ. ครั้งต่อไป

n เห็นชอบในหลักการ เกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ตามข้อตกลงในการพัฒนางาน (Performance Agreement) โดยสาระสำคัญของหลักเกณฑ์ดังกล่าว สรุปดังนี้

กำหนดคุณสมบัติผู้ขอรับการประเมิน ดังนี้

1) ผู้ขอ สามารถยื่นคำขอได้ก่อนที่จะดำรงวิทยฐานะครบตามที่กำหนดในมาตรฐานวิทยฐานะ ได้ก่อนไม่เกิน 2 ปี

2) มีภาระงานตามหน้าที่ความรับผิดชอบตามที่ส่วนราชการกำหนด

3) ผ่านการพัฒนาจากส่วนราชการ 2 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 ความรู้ความสามารถเชิงทฤษฎี ส่วนที่ 2 ประสบการณ์วิชาชีพ โดยผลการพัฒนาฯ ให้ใช้เป็นคุณสมบัติในการขอเลื่อนวิทยฐานะไม่เกิน 5 ปี นับแต่วันที่ประกาศผลการทดสอบ

4) มีข้อตกลงในการพัฒนางาน โดยต้องมีระยะเวลาในการพัฒนางานไม่น้อยกว่า 2 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี

5) ต้องได้รับการรับรองว่าเป็นผู้มีวินัย คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ จากผู้บังคับบัญชาชั้นต้น

– ผ่านการประเมิน 2 ด้าน คือ

ด้านที่ 1 ด้านวินัย คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ

ด้านที่ 2 ด้านที่ 2 การพัฒนางานตามข้อตกลง ซึ่งประกอบด้วย

1) การพัฒนางานและผลการพัฒนาคุณภาพการปฏิบัติงาน พิจารณาจากความสามารถในการปฏิบัติงานในหน้าที่ประจำ และผลที่เกิดกับผู้เรียนหรือคุณภาพผู้เรียน

2) การพัฒนาตนเอง พิจารณาจากแผนการพัฒนาตนเองที่สอดคล้องกับงานหรือเรื่องที่จะทำการพัฒนา

ให้มีกรรมการ 2 ชุด

คณะกรรมการชุดที่ 1 ทำหน้าที่พิจารณาข้อตกลงในการพัฒนางานและประเมินสรุปผลการพัฒนางานตามข้อตกลง เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาที่กำหนดตามข้อตกลง

คณะกรรมการชุดที่ 2 ทำหน้าที่ประเมินเพื่อพัฒนาเป็นระยะๆ อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 2 ปี ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงตลอดระยะเวลาของการพัฒนางานตามข้อตกลง

– เกณฑ์การตัดสิน   ผู้ผ่านเกณฑ์การประเมินต้องได้คะแนนแต่ละด้าน ดังนี้

1) ด้านที่ 1 ด้านวินัย คุณธรรม ต้องได้คะแนนจากผู้บังคับบัญชาชั้นต้น วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75

2) ด้านที่ 2 ด้านการพัฒนางานตามข้อตกลง ต้องได้คะแนนจากกรรมการแต่ละชุด แต่ละคน ดังนี้ วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 และวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 75

– กำหนดให้ยื่นคำขอได้ปีละ 1 ครั้ง 2 ช่วงเวลา คือ ก่อนภาคเรียนที่ 1 และก่อนภาคเรียนที่ 2  ก่อนเปิดภาคเรียนไม่น้อยกว่า 90 วัน

สำหรับรายละเอียดตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังกล่าว จะได้พิจารณาในการประชุม ก.ค.ศ. ครั้งต่อไป

n เห็นชอบให้มีการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการย้าย รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามหนังสือสำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ 0206.4/ ว16 ลงวันที่ 5 กันยายน 2556 ดังนี้

1) กรณีย้ายเพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ของทางราชการ ให้ย้ายรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ตำแหน่งที่มีเงื่อนไข) ไปดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ตำแหน่งโครงสร้าง) ที่ว่างอยู่ได้

2) ให้มีกำหนดสัดส่วนของตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (โครงสร้าง) ที่ว่าง เพื่อใช้รับย้ายและใช้ในการคัดเลือกบุคคลมาบรรจุและแต่งตั้งในสัดส่วนที่เท่ากัน 50:50

3) ให้ สพฐ.ดำเนินการจัดทำร่างหลักเกณฑ์การรับสมัครคัดเลือกดังกล่าวให้ที่ประชุม ก.ค.ศ.พิจารณาในครั้งต่อไป

ทั้งนี้ การปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าว จะทำให้ตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (ตำแหน่งที่มีเงื่อนไข) ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก ลดลงได้เร็วขึ้น เนื่องจากตำแหน่งนี้ ก.ค.ศ.ได้กำหนดให้ยุบเลิกเมื่อมีตำแหน่งว่างลง และให้เปลี่ยนไปเป็นตำแหน่งอื่นที่เหมาะสมต่อไปได้ ซึ่งการแก้ไขหลักเกณฑ์จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนอัตรากำลังของ สพฐ.และสร้างขวัญกำลังใจให้แก่บุคลากรในสังกัดด้วย

n เห็นชอบให้มีการย้ายและบรรจุและแต่งตั้ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 2 ราย คือ

1) ย้าย นายวีระพงศ์ เดชบุญ ผอ.สพม.เขต 7 ไปดำรงตำแหน่ง ผอ.สพม.เขต 4

2) บรรจุและแต่งตั้ง นางสาวรัตติมา พานิชอนุรักษ์ ซึ่งเป็นผู้สอบแข่งขันได้ ให้ดำรงตำแหน่ง ผอ.สพม.เขต 7

n อนุมัติให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ จากการขอรับการประเมินตามหลักเกณฑ์ ว 17/2552 จำนวน 1 ราย ได้แก่ นายเสถียร โพธิรัตน์ จากวิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

n เห็นชอบให้ตั้ง อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเฉพาะกิจเกี่ยวกับการประเมินความรู้ความสามารถของบุคคลเพื่อให้ได้รับ พ.ต.ก. หรือเงินเพิ่มสำหรับตำแหน่งที่มีเหตุพิเศษ ตำแหน่งนิติกร สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมี นายกิจสุวัฒน์  หงส์เจริญ เป็นประธานอนุกรรมการ

n นุมัติแต่งตั้งอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ดังนี้

1) อนุมัติตั้งนายบุญส่ง สมุทรเสน เป็นอนุกรรมการผู้แทนคุรุสภา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 18 (ชลบุรี และระยอง) แทนตำแหน่งที่ว่าง

2) เห็นชอบตั้งนายณรงค์ ศรีสรวล เป็นอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปราจีนบุรี เขต 1 แทนตำแหน่งที่ว่าง

3) อนุมัติตั้ง นายอรัญ พรหมรักษา เป็นอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการเงิน การคลัง ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 3 แทนตำแหน่งที่ว่าง

4) อนุมัติตั้งอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษาแทนตำแหน่งที่ว่าง 25 ราย ดังนี้

– นายบัณฑิต พัดเย็น เป็นอนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร

– นายเฉลิมชัย วัดเข้าหลาม เป็นอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครู ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร

– นายเจษฎา  มงคลรัตน์ เป็นอนุกรรมการผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่น ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร

– นายนิพนธ์ ถิ่นดอนหมู เป็นอนุกรรมการผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่น ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบึงกาฬ

– นายสมชาย  ฟักทอง เป็นอนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 4  (ปทุมธานี และสระบุรี)

– นายชาญสินธุ์  กิจแสงทอง เป็นอนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 6 (ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ)

– นายศักดา  โกมลวานิช เป็นอนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 10 (เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม และสมุทรสาคร)

– นายถาวร  แสงเพชร เป็นอนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 11 (สุราษฎร์ธานี และชุมพร)

– นายสุรพงศ์ ขวัญคีรี เป็นอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครู ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 11 (สุราษฎร์ธานี และชุมพร)

– นางสาวรณิดา อินนุพัฒน์ เป็นอนุกรรมการผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่น ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 12 (นครศรีธรรมราชและพัทลุง)

– นายประภาส  ขุนจันทร์ เป็นอนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 15 (นราธิวาส ปัตตานีและยะลา)

– นายเติม พกแดง เป็นอนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16  (สงขลาและสตูล)

– นางศิรประภา ขวัญทอง เป็นอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครู ใน อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 (สงขลาและสตูล)

– นางสุริศา  ริมคีรี เป็นอนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษาใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20 (จันทบุรีและตราด)

– นายวาสนา จุฑานันท์ เป็นอนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20 (อุดรธานี)

– นายวีระพงษ์ ไชยรา เป็นอนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24 (ขอนแก่น)

– นายเกษมสันต์  มณีภาค เป็นอนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 29 (อุบลราชธานีและอำนาจเจริญ)

– นายสุรวิทย์  พลมณี  เป็นอนุกรรมการผู้บริหารสถานศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 30 (ชัยภูมิ)

– นายบุญเลิศ  พ่วงเพ็ชร  เป็นอนุกรรมการผู้บริหารสถานศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 31 (นครราชสีมา)

– นายอิทธิพล  ตรีรัตนกุลพร เป็นอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครู ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 31 (นครราชสีมา)

– นายชาญวิทย์  เพียรแก้ว เป็นอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครู ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 (บุรีรัมย์)

– นายบุญเสริม  สุริยา เป็นอนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 34 (เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน)

– นางพิมพ์ใจ  มณีวรรณ์ เป็นอนุกรรมการผู้แทนบุคลากรทางการศึกษาอื่น ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 34 (เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน)

– นายเจริญ กาจุม เป็นอนุกรรมการผู้แทนข้าราชการครู ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 36 (เชียงราย และพะเยา)

– นายเดชา  สมบูรณ์พงษ์กิจ เป็นอนุกรรมการผู้แทนผู้บริหารสถานศึกษา ใน อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 (พิษณุโลก และอุตรดิตถ์)

 

 

Source
ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button