วอนเห็นใจครูทำงานไม่มีความสุข
นักวิชาการวอนเห็นใจครูทำงานไม่มีความสุข งานเยอะ แต่ไม่ใช่งานหลักของตัวเอง ถูกลิดรอนเวลาในการสอนถึง 42 % ต่อปี ทำให้เด็กบ่นครูขาดสอนบ่อย ๆ ชี้รัฐเดินถูกทางที่ปฎิรูปการศึกษาโดยเน้นไปที่ตัวครู
เมื่อ 16 ม.ค. ที่คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้จัดงานเนื่องในโอกาสวันครู ประจำปี 2558 โดย รศ.ดร.บัญชา ชลาภิรมย์ คณบดีคณะครุศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า คณะครุศาสตร์ จุฬา ฯ เป็นหนึ่งในสถาบันที่ทำหน้าที่ผลิตครู ตระหนักถึงความสำคัญของ “ครู” ซึ่งเป็นอาชีพที่มีความสำคัญต่อคุณภาพของทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะเรื่องของการศึกษา หากประเทศใดมี “ครู” ที่มีคุณภาพ ย่อมเป็นการยืนยันได้ถึงแนวโน้มในการมีทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ สามารถพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าต่อไปในอนาคต แม้ว่าระบบการศึกษาจะเปลี่ยนแปลงไปตามบริบทของสังคมไทยและสังคมโลกอย่างไรก็ตามสิ่งที่ดำรงอยู่ในวิชาชีพครูคือ การทำหน้าที่สอน การเป็นแบบอย่างที่ดี การสั่งสมความรู้ ให้ผู้เรียนสามารถเป็นครูที่สมบูรณ์แบบ
ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo
ศ.ดร.สมพงษ์ จิตระดับ อาจารย์คณะครุศาสตร์ จุฬา ฯ กล่าวว่า สถานการณ์ครูไทยในปัจจุบันมีภาระการทำงานมากขึ้น เพราะเด็กมีปัญหาเยอะ เช่น เด็กใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่เจอปัญหาความรุนแรง เด็กภาคเหนือปัญหายาเสพติด เด็กในกรุงเทพฯพ่อแม่แตะไม่ได้ และเด็กยากจน ดังนั้นครูจึงไม่ใช่มีหน้าที่สอนเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสอนทักษะชีวิตและหยุดภาวะสังคมที่กำลังป่วยให้ได้ นอกจากนี้ครูถูกลิดรอนการทำงาน โดยให้ทำในสิ่งที่ไม่ใช่งานหลัก คือ ต้องทำงานเอกสาร รับการประเมินต่าง ๆ พาเด็กไปแข่งขัน ส่งผลให้ครูมีเวลาการสอนลดลง จากต้องสอน 200 วันต่อปี ถูกลดการสอนไปถึง 42% หรือ84 วัน
“การที่ครูไม่ได้ทำหน้าที่สอน ซึ่งเป็นงานหลักถือเป็นอันตรายมากทำให้ครูไม่มีความสุข เพราะไม่ได้ทำงานหน้าที่โดยตรงของตนอย่างเต็มที่ อีกทั้งมีเสียงบ่นจากเด็กในโรงเรียนขนาดเล็ก ว่าครูขาดสอนบ่อย ขณะเดียวกันครูถูกมองแง่ลบ ทำโทษเด็ก เอาเวลาไปสอนพิเศษ หรือทำอาชีพเสริม “ศ.ดร.สมพงษ์ กล่าวและว่า การที่รัฐบาลปฎิรูปการศึกษาโดยเน้นตัวครู การผลิตครู ใช้กฎหมายมาบังคับ ปรับโครงสร้าง การเพิ่มสวัสดิการให้ครู สร้างความมั่นคง ทำให้คนเก่ง คนดีมาเรียนครูมากขึ้น ถือว่ามาถูกทางแล้ว.