สองคน ยลตามช่อง คนหนึ่ง มองเห็นโคลนตม…
ยินมาว่า…คุรุชราผู้หนึ่งแห่งนครตักศิลา ได้รับกุลบุตรฝาแฝดเข้ามาเป็นศิษย์ในสำนักพราหมณ์
ยุวกุมารทั้งสอง…ภายนอกมีความละม้ายคล้ายคลึงจนยากที่จักแยกแยะออกได้ว่า ดรุณใด…เป็นผู้พี่หรือน้อง…
ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo
ว่ากันว่าแม้แต่น้ำเสียงใส…ก็ยังมีท่วงทำนองเอ่ยเอื้อนเป็นจังหวะเดียวกัน…
ผู้พี่…มีนามว่า…ติสสะ ส่วน…กุมารน้อยผู้น้อง…มีนามคล้ายกัน…ติรถะ
ถึงแม้ทั้งสองดรุณ…จักมีความคล้ายคลึงกันมากเพียงไร…ทว่ามีสิ่งหนึ่ง…ที่แผกกัน
“สิ่งนั้น?”
มิมีผู้ใดในสำนักพราหมณ์ล่วงรู้…นอกจากคุรุชรา…ผู้เก็บงำความลับนั้นมาเป็นเพลานานหลายสิบปี…นับตั้งแต่…ราตรีแรกที่รับกุลบุตรฝาแฝดมาสู่สำนัก
ครานั้น…
พราหมณ์ชรา…ได้ตริการอย่างหนึ่งขึ้นมา…จึ่งเรียกดรุณน้อยทั้งสองเข้ามาพบเพื่อทดลองการที่ดำริอยู่ในใจ
“ผู้ใดคือ ติสสะ…”
ดรุณน้อยที่นั่งอยู่เบื้องซ้ายยกมือขึ้น…
“ตามข้ามา…”
ผู้พี่จึงเดินตามคุรุ…ตามระเบียงไม้ที่ทอดยาวไปสู่มุมหนึ่งของสำนัก…จนสุดทางเดินซึ่งเป็นฝาไม้มีรอยรูโหว่เป็นช่องเล็กๆ แต่ก็ยังพอให้ลอบลอดมองออกไปด้านนอกได้
“จงมองเข้าไปในช่องนั้น…แล้วบอกข้า ว่าเจ้าเห็นสิ่งใด”
ติสสะ…ทอดตาลอดมองเข้าไปในช่องแคบ…สิ่งที่ดรุณน้อยได้ก็เห็นคือ…ท้องฟ้าที่เดียรดาษไปด้วยหมู่ดาวระยิบระยับ…
“เจ้าเห็นสิ่งไร…”
“เรียนคุรุ…ข้าเห็นหมู่ดาราบนฟากฟ้า…ช่างงดงามยิ่งนัก”
พราหมณ์ชรา…จดจำคำตอบของผู้ศิษย์เอาไว้แม่นมั่น…ก่อนที่จักพากลับไปยัง ณ ห้องเดิม ที่ผู้น้องคอยอยู่
“ติรถะ…เจ้าจงตามข้ามา”
เช่นเดิม…คุรุจึงพา ยุวกุมารผู้น้องไปยัง ฝาผนังปลายสุดของระเบียง…ที่ซึ่งพาผู้พี่มาเมื่อครู่…
“จงมองเข้าไปข้างในช่องนั้น…แล้วบอกข้าว่า เจ้าเห็นสิ่งไร”
ติรถะ…ทำตามคำสั่งของอาจารย์ ทอดตาลอดแลเข้าไปในรูช่องน้อยนั้น…
แต่สิ่งที่ดรุณน้อยผู้น้องเห็นคือ…โคลนตมเหลวเละที่อยู่ในปลักเลนของท้องนา…
“เจ้าเห็นสิ่งไร…”
“เรียนคุรุ…ข้าเห็นแต่เพียงตมเลน…สกปรกยิ่ง”
เมื่อได้ยินคำตอบของศิษย์น้อยผู้น้อง…พราหมณ์ชราจึงแจ้งใจ…
อันมนุษย์แม้มีรูปกาย อากัปกิริยาภายนอก…ละม้ายคล้ายคลึงกันเพียงไร…
แต่สิ่งเดียว…ที่มิเหมือน…แม้ว่าจักเป็นพี่น้องฝาแฝดคลานตามกันมา…ก็คือ…ความคิดและปัญญา…ที่แผกผิดกัน
ในช่องรูเดียว…กลับมีคำตอบเป็นสอง…
ดรุณน้อยผู้พี่…มองเห็นดารา
กุมารผู้น้อง…มองเห็นตมเลน
ความคิดมนุษย์นั้นหลากหลาย…ยิ่งกว่าจำนวนดาวที่ประดับฟ้า…
📌 สองคน ยลตามช่อง
คนหนึ่ง มองเห็นโคลนตม
คนหนึ่ง ตาแหลมคม
มองเห็นดาวอยู่พราวแพรว