6 คำแนะนำ ทำงานอยู่บ้านอย่างไรไม่ให้น่าเบื่อ (Work form home)
จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือโคโรนา ทำให้ช่วงนี้หลายคนอาจจะต้องเริ่ม Work from Home กักตัวเอง “ทำงานอยู่บ้าน” เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัส COVID-19 พอได้ทำงานอยู่ที่บ้าน หลายคนอาจจะเริ่มตารางชีวิตรวน ไม่รู้จะจัดสมดุลระหว่างการงานกับช่วงพักผ่อนอย่างไร
ช่วงแรกๆ การที่เราเริ่ม Work from Home หรือจินตนาการถึงการทำงานที่บ้าน ฟังดูเหมือนเป็นโลกการทำงานในฝันเพราะไม่ต้องฝ่าฟันรถติดหรือผู้คนแออัด แถมยังอาจจะได้แวบไปทำงานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ด้วย
แต่ข้อเสียของการทำงานอยู่บ้านก็มีเช่นกัน เพราะเมื่อผ่านไประยะหนึ่ง เราก็มักจะรู้สึกเบื่อหน่าย และดูเหมือนงานจะไม่จบสิ้นเสียที เพราะไม่ได้มีเวลากักเกณฑ์ในการเข้าออกงาน
ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo
วันนี้เรามี 6กิจกรรม แนะนำสำหรับคนทำงานอยู่บ้าน เพื่อสร้างสมดุลชีวิตไม่ให้ทำงานมากไปหรือน้อยไป และที่สำคัญ…ไม่เหงาเกินไปด้วย
1.การสร้างบรรยากาศ “ที่ทำงาน” ในบ้าน
สำหรับคนที่เคยชินกับสิ่งแวดล้อมในออฟฟิศอาจจะปรับตัวยากหน่อยเมื่อต้องทำงานอยู่บ้าน ถ้าในหนึ่งวันของคุณต้องเดินไปเดินมาระหว่างโต๊ะของตัวเอง ไปห้องประชุมใหญ่ กลับมาห้องประชุมย่อย คำแนะนำว่า เมื่อมาทำงานอยู่บ้าน ก็ไม่จำเป็นต้องฝังตัวเองอยู่กับโต๊ะทำงานตัวเดียวเช่นกัน
เราสามารถจัดพื้นที่ในบ้านให้เหมาะกับฟังก์ชันการทำงานแต่ละอย่างได้ เช่น มุมเงียบๆ ในบ้านใช้สำหรับเวลาทำงานที่ต้องใช้การคิดวิเคราะห์ ขณะที่การย้ายมารับแดดที่ชานบ้านอาจจะเหมาะกับการทำงานต่างๆ อย่างการตอบE-mail หรือจัดการเอกสารยิบย่อย และที่สำคัญ ต้องไม่ลืมจัด “โซนปลอดงาน” ในบ้าน โดยโซนนี้จะไม่มีการนำงานเข้าไปทำเด็ดขาดโดยเฉพาะห้องนอน “คุณจะพักผ่อนช่วงกลางคืนได้ยากมากหากคุณเริ่มนำงานเข้าไปทำในบริเวณที่ใช้พักผ่อน”
2.จัดตารางชีวิตให้ชัดเจน
การทำงานอยู่บ้านไม่ได้แปลว่าเราจะต้องทำงานนานขึ้นกว่าเดิม ระบุงานให้ชัดเจนว่า “ตารางชีวิตคุณจะทำอะไรบ้าง” และเมื่อสิ้นสุดเวลาทำงานตามตารางแต่ละวัน ควรจะเก็บอุปกรณ์การทำงานทันที เปลี่ยนชุดเป็นชุดอยู่บ้านหรือชุดนอนเพื่อเปลี่ยนโหมดตนเองว่าตอนนี้เข้าสู่เวลาส่วนตัวแล้ว
และที่สำคัญ ควรจะคุยกับสมาชิกในบ้านด้วยว่าตารางการทำงานคุณเป็นอย่างไร เพื่อไม่ให้มีการรบกวนกันระหว่างวัน ทั้งนี้ นี่เป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับมนุษย์พ่อหรือมนุษย์แม่ในช่วงที่โรงเรียนปิดเทอม “ควรจัดตารางแบ่งเวลางานกับเวลาเล่นกับลูก และจัดสถานที่ให้แบ่งแยกกันด้วย รวมถึงต้องออกคำสั่งที่ชัดเจน” เพื่อไม่เป็นการรบกวนกันในช่วงเวลาทำงาน
3.หาเวลาพักเบรก
คนเราไม่ได้ทำงานติดต่อกัน 8 ชั่วโมงเวลาอยู่ในออฟฟิศ เราจะต้องมีเวลาพักเบรกทานกาแฟ เดินหาร้านอาหารตอนพักเที่ยง และเวลานั่งเม้าท์กับเพื่อนร่วมงานระหว่างวันบ้าง ดังนั้นการทำงานอยู่บ้านไม่ได้แปลว่าคุณจะไม่สามารถพักเบรกแบบนั้นได้ แต่คนที่ทำงานอยู่บ้านก็ควรจะได้พักระหว่างวันบ้างเช่นกัน และการพักยังจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานดีกว่าอีกด้วย เช่น ดูหนัง ฟังเพลง เดินออกไปรับบรรยากาศโซนอื่นๆของบ้าน
4.แชทและวิดีโอคอล
มีการแชทหรือวีดิโอคอลแก้เหงากันบ้าง เพื่อหลีกเลี่ยงความเหงาเวลาเรานั่งทำงานอยู่คนเดียว ที่ทำงานควรจะมีการนัดประชุมทางไกลผ่านระบบวิดีโอคอลบ้าง ยกตัวอย่างเช่น มีการนัดประชุม 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นหน้ากัน ไม่ว่าจะทำงานอยู่มุมไหนที่ใด นอกจากนี้ยังเป็นการทำให้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างที่ไม่ได้เจอกันด้วย จากบรรยากาศที่ทำงานปกติอาจจะเดินไปเม้าท์ที่โต๊ะเพื่อนบ้าง เดินสวนกันมีทักทายกันบ้าง สิ่งเหล่านี้อาจจะหายไปจากการทำงานอยู่บ้าน แต่เราสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้
5.ย้ายมุมในการนั่งทำงาน
ลองเปลี่ยนบรรยากาศจากโต๊ะทำงานติดกำแพง แล้วออกมาเปลี่ยนบรรยากาศ เป็นการนั่งทำงานในสวนที่บ้าน การจัดแต่งมุมห้องทำงานหลายๆรูปแบบ ยกกระถางต้นไม้เล็กๆมาตั้งบ้าง เปลี่ยนโลเคชันในการจัดวางของบนโต๊ะทำงาน สิ่งเหล่านี้ก็สามารถช่วยคุณได้ เพื่อไม่ให้จำเจจนเกินไป
6.ใช้เวลาเดินทางไป-กลับที่ทำงาน “นำมาใช้ทำอย่างอื่นแทน”
เราจะประหยัดเวลาในการเดินทาง ดังนั้น ลอง “เปลี่ยนเวลาที่ใช้เดินทางไปที่ทำงานตอนเช้ามาเป็นช่วงเวลาสำหรับตัวเองหรือครอบครัว ไม่ใช่ทำงานเพิ่ม” เช่น ทำอาหารเช้า โยคะกระชับร่างกาย เป็นต้น
การทำงานและตารางชีวิตของใครหลายคนอาจจะต้องเปลี่ยนไป นั้นทำให้เราต้องมีการปรับจูนกันบ้าง เมื่อมีการ Work from Home เกิดขึ้น ในเวลาที่เราต้องทำงานอยู่บ้านกันจริงๆ ซึ่งไม่ใช่การไปนั่งตามร้านกาแฟ ก็อาจจะทำให้เราเหงาและอึดอัดมากขึ้น แต่เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ^ ^