สาระความรู้

ครม. เปิดตัว “มีที่ มีเงิน” สามารถใช้โฉนดที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างยื่นกู้ธนาคาร

ครม. เปิดตัว “มีที่ มีเงิน” สามารถใช้โฉนดที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างยื่นกู้ธนาคาร

คณะรัฐมนตรี อนุมัติโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ SMEs “มีที่ มีเงิน” สำหรับธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องกิจการท่องเที่ยว รวมทั้งเพื่อไถ่ถอนจากการขายฝากเอกชนที่ทำสัญญาขายฝาก ทำให้ผู้ประกอบการยังสามารถรักษาธุรกิจและการจ้างงานไวได้ โดยมีกลุ่มเป้าหมาย คือ

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

➡️ ผู้ประกอบการ SMEs ในภาคธุรกิจท่องเที่ยวและสาขาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง (Supply Chain) ที่มีที่ดินว่างเปล่า และ/หรือที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีเอกสารสิทธิเป็นโฉนดที่ดิน

➡️ใช้ที่ดินว่างเปล่าและ/หรือที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่มีเอกสิทธิ์ที่มีเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดินเป็นหลักประกัน และไม่ต้องผ่านการตรวจสอบข้อมูลเครดิตบูโร

💰💰 โดยธนาคารออมสินจะสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำวงเงินรวม 10,000 ล้านบาท ให้วงเงินสินเชื่อต่อรายย่อยไม่เกินร้อยละ 70 ของราคาประเมินที่ดินของทางราชการ สูงสุดไม่เกิน 10 ล้านบาท สำหรับบุคคลธรรมดา และสูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาทสำหรับนิติบุคคล มีระยะเวลากู้ 3 ปี โดยปีแรกอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.10 ต่อปี

ทั้งนี้ สามารถยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ – 30 มิถุนายน 2564 หรือจนกว่าวงเงินโครงการจะหมด พร้อมยังอนุมัติ 600 ล้านบาท เพื่อชดเชยให้กับธนาคารออมสินในการดำเนินโครงการด้วย

นอกจากนี้ ยังอนุมัติ ปรับปรุงมาตรการการเงินเพื่อดูแลและเยียวยาผลกระทบจากเชื้อไวรัสโควิด-19 ขยายระยะเวลาปลอดเงินต้นและดอกเบี้ยในโครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้มีอาชีพอิสระที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 วงเงินสินเชื่อ 40,000 ล้านบาท โดยธนาคารออมสินสนับสนุน 20,000 ล้านบาท และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สนับสนุนอีก 20,000 ล้านบาท โดยปรับปรุงจาก 6 เดือน เป็นรายกรณีไม่เกิน 12 เดือน ขยายระยะเวลากู้จากเดิมที่ให้กู้ไม่เกิน 2 ปี 6 เดือน เป็น 3 ปี

✅✅ การขยายหลักเกณฑ์ดังกล่าว จะช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดและอาจส่งผลต่อประวัติสินเชื่อในระบบเครดิตบูโร รวมทั้งยังอยู่ภายใต้กรอบงบประมาณชดเชยเดิมตามที่คณะรัฐมนตรีได้มติไว้แล้วจึงไม่ก่อให้เกิดภาระด้านงบประมาณ

ที่มา : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button