สาระความรู้

ขอรับเงิน กบข. คืน อย่างไร เมื่อไม่ได้เป็นสมาชิกแล้ว ?

ขอรับเงิน กบข. คืนอย่างไร เมื่อไม่ได้เป็นสมาชิกแล้ว ?

รักครู.com  ขอนำเสนอข้อมูล การขอรับเงิน กบข. คืน เมื่อสิ้นสุดสภาพการเป็นสมาชิก ของ กบข. แล้ว  โดยข้อมูลทั้งหมดมาจาก เอกสารเผยแพร่ของ กบข. เอง ดังนี้ครับ

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

สมาชิก กบข. เมื่อต้องออกจากราชการด้วยเหตุเกษียณอายุ ลาออก ให้ออก โอนย้ายไปยังหน่วยงานส่วนท้องถิ่น เสียชีวิต หรือออกจากราชการด้วยเหตุต่าง ๆ จะถือว่าสิ้นสุดการเป็นสมาชิก กบข. อัตโนมัติและจะต้องทำเรื่องขอรับเงินคืนจาก กบข. โดยวิธีการและขั้นตอนเป็นอย่างไรนั้น  มาอ่านกันเลย

การทำเรื่องขอรับเงินคืนจาก กบข. สมาชิกและทายาทของผู้ที่เสียชีวิต จะต้องติดต่อหน่วยงานต้นสังกัดเพื่อทำเรื่องขอรับเงินคืน ส่งเอกสารในการขอรับเงินจะเป็นดังนี้

กรณีสมาชิกออกจากราชการ

แบ่งวิธีการขอรับเป็น 2 กรณี คือ

กรณีมีสิทธิรับบําเหน็จ รับเบี้ยหวัด หรือไม่มีสิทธิรับบําเหน็จบํานาญ รวมไปถึงการโอนย้ายไปหน่วยงานส่วนท้องถิ่น จะต้องใช้เอกสารดังนี้
1. แบบ กบข. รง 008/1/2555
2. สําเนาคําสั่งออก พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับรองสําเนาถูกต้อง
3. สําเนาสมุดบัญชีเงินฝาก พร้อมรับรองสําเนาถูกต้อง 
(กรณีเลือกโอนเงินเข้าบัญชี)

กรณีมีสิทธิรับบํานาญจากภาครัฐ จะต้องใช้เอกสารดังนี้
1. แบบ กบข. รง 008/1/2555
2. สําเนาคําสั่งออก/ประกาศเกษียณ พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับรองสําเนาถูกต้อง
3. สําเนาหนังสือการสั่งจ่ายบํานาญ พร้อมรับรองสําเนาถูกต้อง
4. สําเนาสมุดบัญชีเงินฝาก พร้อมรับรองสําเนาถูกต้อง 
(กรณีเลือกโอนเงินเข้าบัญชี)

หากสมาชิกเป็นข้าราชการที่ถ่ายโอนไปตามการกระจายอํานาจฯ ไปท้องถิ่น จะมีเอกสารที่ต้องนําส่งเพิ่มเติมคือ แบบคํานวณ  บท. 4  พร้อมเจ้าหน้าที่รับรองสําเนาถูกต้อง และ สมุดประวัติ /ก.พ.7 ฉบับจริง

สมาชิกเตรียมเฉพาะสําเนาสมุดบัญชีเงินฝากเท่านั้น และกรอก แบบขอรับเงินคืน แบบ กบข. รง 008/1/2555 ในส่วน “สําหรับผู้ยื่นคําขอ ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานจะ ลงชื่อในส่วน “ลงชื่อพยาน” และดําเนินการใส่ ข้อมูลในส่วนของ “สําหรับส่วนราชการ” และจัดเตรียมเอกสารแนบต่างๆ จัดส่งมายัง กบข.

สําหรับสมาชิกที่มีสิทธิรับบําเหน็จบํานาญ สามารถทําเรื่องขอ รับเงินคืนจาก กบข. ผ่านระบบ e-fing หรือให้เจ้าหน้าที่หน่วยงานทํา ผ่านระบบ e-pension ได้เลย ถ้าทําผ่านระบบดังกล่าวแล้วไม่ต้องกรอก เอกสารการขอรับเงินคืนและส่งเอกสารใดๆ มายัง กบข.

กรณีสมาชิก กบข. เสียชีวิต

ผู้ที่สามารถทําเรื่องขอรับเงินคืนจาก กบข. คือ ทายาทโดยธรรม หรือผู้จัดการมรดก สําหรับทายาทโดยธรรม จะต้องเป็นทายาทที่ถูกต้อง ตามกฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ส่วนผู้จัดการมรดก เป็นทายาทที่ระบุในพินัยกรรม หรือตัวแทนทายาท ไปร้องต่อศาลขอแต่งตั้ง เป็นผู้จัดการมรดกในการรับเงินคืน ซึ่งวิธีการขอรับมี 2 กรณี คือ

กรณีทายาทโดยธรรม จะต้องใช้เอกสารดังนี้
1. แบบขอรับเงินคืน กบข. รง 008/2/2562
2. แบบ ปค 14 ของทางราชการ (ทายาททุกคน) โดยไปสอบปากคํา
ที่ อําเภอ/เขต พื้นที่ของสมาชิก กบข. ที่เสียชีวิต
3. สําเนาสมุดบัญชีเงินฝากพร้อมรับรองสําเนาถูกต้อง
(กรณีเลือกวิธีโอนเงิน)
4. สําเนาทะเบียนสมรส พร้อมคู่สมรสรับรองสําเนาถูกต้อง
5. สําเนาใบมรณบัตร
6. หลักฐานเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี)

กรณีผู้จัดการมรดก จะต้องใช้เอกสารดังนี้
1. แบบขอรับเงินคืน กบข. รง 008/2/2562
2. คําสั่งศาลตั้งผู้จัดการมรดก ฉบับเจ้าหน้าที่ศาลรับรองสําเนาถูกต้อง
3. สําเนาสมุดบัญชีเงินฝากพร้อมผู้จัดการมรดกรับรองสําเนาถูกต้อง
4. สําเนาใบมรณบัตร
5. หลักฐานเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี)

เงิน กบข. จะเป็นสิทธิตามกฎหมายของสมาชิก กบข. เท่านั้น จึงไม่สามารถระบุผู้รับผลประโยชน์ได้ สมาชิก กบข. จึงต้องดําเนินการ ขอรับเงินคืนด้วยตัวเอง

ขอรับเงิน กบข. คืน อย่างไร เมื่อไม่ได้เป็นสมาชิกแล้ว ?

อ่านเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมด : กบข.ยืนยัน ข้าราชการทุกคนมีสิทธิรับบำนาญ ไม่ว่าจะบรรจุเข้ารับราชการในปีไหน

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button