สพฐ.แจ้งหนังสือ ซักซ้อมแนวทางการบริหารอัตรากำลังอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ
สพฐ.แจ้งหนังสือ ซักซ้อมแนวทางการบริหารอัตรากำลังอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ
วันนี้ที่เพจ สุรวาท ทองบุ : Surawat Thongbu ท่านอาจารย์สุรวาท ทองบุ สส.พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ภาพหนังสือที่ ศธ 04009/ว2200 เรื่อง ซักซ้อมแนวทางการบริหารอัตรากำลังอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ซึ่งมีเนื้อหาที่สำคัญมากๆดังนี้
6 พฤษภาคม 2564
เรื่อง การซักซ้อมแนวทางการบริหารอัตรากําลังอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ
เรียน ผู้อํานวยการสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต อ้างถึง หนังสือสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด่วนที่สุด ที่ ศธ04009/ว 1715 ลงวันที่ 1 เมษายน 2564
ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo
ตามหนังสือที่อ้างถึง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้จัดสรรอัตราจ้าง ผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 ครั้งที่ 2 เพื่อดําเนินการจ้างอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ และ หากอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการว่างลงทุกกรณี ให้รายงานส่งคืนสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาชะลอการสรรหาอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการรายใหม่ทดแทน จนกว่าจะมีการแจ้งจัดสรรคืน ความแจ้งแล้ว นั้น
สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานพิจารณาแล้ว ขอเรียนว่า เนื่องจากสํานักงาน ชคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ประสานไปยังสํานักงบประมาณ พบว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ2565 สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้รับการจัดสรรงบประมาณการจ้างอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ลดลงจํานวนมาก ส่งผลกระทบต่อการจัดสรรอัตราจ้างและงบประมาณการจ้างอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ดังนั้น เพื่อให้การบริหารอัตรากําลังอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ เหมาะสมกับงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 จึงขอซักซ้อมและกําหนดแนวทางดําเนินการบริหารอัตรากําลังอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ จํานวน 8 ตําแหน่ง ที่ได้รับจัดสรรตามหนังสืออ้างถึง โดยให้ดําเนินการ ดังนี้
1.ในกรณีที่มีผู้ปฏิบัติงานให้ราชการว่างลงทุกกรณี ให้รายงานอัตราว่างส่งคืนสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ห้ามนําอัตราไปใช้ทุกกรณี และชะลอการสรรหาผู้ปฏิบัติงานให้ราชการรายใหม่มาทดแทน โดยจะดําเนินการจัดจ้างใหม่ได้ก็ต่อเมื่อสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจัดสรรอัตราคืนให้เท่านั้น หากสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตรวจสอบภายหลังพบว่าอัตราจ้าง ที่สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษารายงานการจ้างไม่ใช่บุคคลเดิมที่เป็นการจ้างต่อเนื่องรายเดิม โดยที่สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่รายงานส่งคืนอัตราว่างและนําอัตราว่างไปใช้โดยไม่ได้รับอนุมัติจากสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ใช้อัตราว่าง สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบงบประมาณการจ้าง ที่เกิดจากการที่ไม่ปฏิบัติตามข้อสั่งการที่สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกําหนด และสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จะไม่จัดสรรงบประมาณการจ้างให้กับอัตราจ้าง ดังกล่าว
2. กรณีสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษามีแผนการรวมสถานศึกษา ให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาเตรียมการบริหารจัดการเกลี่ยอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการทุกตําแหน่งตามที่ได้รับจัดสรร จากสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เกิดประสิทธิภาพ และหากมีการควบรวมตามแผนให้ดําเนินการ บริหารอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการที่เกิน โดยเกลี่ยไปให้สถานศึกษาอื่นที่ไม่มีอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ถ้าเป็นตําแหน่งว่างให้รายงานส่งคืนสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หากมีคนครองให้ปฏิบัติงาน ไปจนสิ้นสุดสัญญาจ้างในปีงบประมาณนั้น และให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษารายงานส่งคืนอัตราจ้างดังกล่าว ไปยังสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ห้ามนําอัตราไปใช้ทุกกรณี
3. กรณีที่เลิกสถานศึกษา หรือ โอนสถานศึกษาไปองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา พิจารณาเกลี่ยอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการทุกตําแหน่งที่ได้รับจัดสรร หากเป็นตําแหน่ง ที่มีคนครอง ให้เกลี่ยไปให้สถานศึกษาอื่นที่ไม่มีอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ โดยให้ปฏิบัติงานไปจนสิ้นสุด สัญญาจ้างในปีงบประมาณนั้น และให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษารายงานส่งคืนอัตราจ้างดังกล่าว ไปยัง สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน หากเป็นตําแหน่งว่างให้รายงานส่งคืนสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ห้ามนําอัตราไปใช้ทุกกรณี
4. สําหรับอัตราจ้างผู้ปฏิบัติงานให้ราชการ ตําแหน่งธุรการโรงเรียน อัตราละ 15,000 บาท และ ธุรการโรงเรียน อัตราละ 9,000 บาท ให้สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาดําเนินการตามข้อ 1 – 3 และให้ สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา จัดทําแผนบริหารอัตรากําลังธุรการโรงเรียนในภาพรวมของสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยให้บริหารอัตราจ้างธุรการโรงเรียน ตามจํานวนที่ได้รับจัดสรรจากสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ตามความจําเป็น เช่น ธุรการโรงเรียน จํานวน 1 คน สามารถปฏิบัติงานได้มากกว่า 1โรงเรียน เป็นต้น
ขอบคุณที่มา : สุรวาท ทองบุ : Surawat Thongbu