ข่าวการศึกษา

มศว วอนคุรุสภามองปัญหาครูในสภาพจริง ปรับหลักสูตร เพื่อให้ครูรู้เท่าทันสังคมโลก

ดร.วรวุฒิ สุภาพ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายพัฒนานิสิตและบริการชุมชนคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) เปิดเผยว่า จากที่นิสิตครูต้องออกไปสอนนักเรียนในช่วงชั้นปีที่ 5 เป็นช่วงเวลาของการฝึกสอน ทำให้พบว่า นิสิตครูนอกจากจะเรียนรู้ในชั้นเรียนมีความรู้ในศาสตร์วิชาเอกของตัวเองแล้ว ยังต้องมีความรู้ด้านจิตวิทยาครู และนอกเหนือจากนั้นนิสิตครูก่อนที่จะก้าวออกไปเป็นครูจะต้องรู้เท่าทันสังคม จะเห็นว่าสภาพสังคม ปัญหาของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปมาก หากนิสิตครูยังไม่ปรับตัว ไม่เปิดหูตาให้กว้าง เราจะเป็นครูที่รู้ไม่ทันโลก รู้ไม่ทันสังคม ช่วยเหลือและสนับสนุนนักเรียนในโรงเรียนไม่ได้เลย พอเจอปัญหาครูกลับเครียดและบางครั้งก็ไม่เข้าใจเด็กในโรงเรียน ดังนั้นจึงต้องมีการสร้างครูเชิงรุกให้มากขึ้น และจะต้องมีกระบวนการ มีวิชาเลือกที่เปิดหูตาให้นิสิตครูมีภูมิคุ้มกันและมีวิธีการที่จะรับมือกับ ทุกๆ ปัญหาดร.วรวุฒิ ยังกล่าวต่อไปว่า ปัจจุบันหลักสูตรกศบ.ของมหาวิทยาลัยทั่วประเทศไทย ไม่มีวิชาเลือกที่ทำให้นิสิตครูรับมือกับปัญหาที่ต้องออกไปเจอกับสถานการณ์ จริงได้เลย อย่างเช่นปัญหายาเสพติด ท้องในวัยเรียนพ่อแม่หย่าร้าง เด็กในโรงเรียนมีปัญหาสารพัด ที่เป็นเรื่องละเอียดอ่อนและซับซ้อน ซึ่งทุกคนอาจจะคิดว่าปัญหาเหล่านี้เป็นปัญหาเดิมๆ ที่เกิดซ้ำซาก แต่ในความซ้ำซากหรือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้เสมอๆ นั้นปัญหามีความซับซ้อนและละเอียดขึ้น หากนิสิตครูไม่ได้ถูกสร้างให้เป็นครูเชิงรุก เขาจะไม่สามารถรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับเด็กในโรงเรียนเหล่านี้ได้เลย ท้ายที่สุดครูก็เป็นที่พึ่งให้เด็กๆ ไม่ได้

ดร.วรวุฒิ กล่าวต่อว่า ตนจึงอยากให้ผู้ที่มีส่วนในการดูแลครูโดยเฉพาะกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) และคุรุสภา เห็นความสำคัญในเรื่องเหล่านี้ อย่าลืมว่าการจะสอนวิชาใดนั้น สถาบันการศึกษาต้องแจ้งต่อคุรุสภา และกระทรวงศึกษาฯ ซึ่งหากหน่วยงานที่ดูแล กำกับหลักสูตรของคณะศึกษาศาสตร์ในมหาวิทยาลัยต่างๆ มองไม่เห็นความสำคัญของวิชาที่จะสอนให้นิสิตครู เป็นครูเชิงรุกหรือครูมืออาชีพก็ควรเปิดโอกาสให้แต่ละมหาวิทยาลัยปรับหลัก สูตรของตัวเองเพื่อให้ก้าวทันโลกและพร้อมจะเป็นที่พึ่งให้นักเรียนได้ ขณะนี้ ทางคณะศึกษาศาสตร์กำลังคิดปรับวิชาเลือก เพื่อให้นิสิตครูรู้เท่าทันโลกและสังคมให้มากขึ้น ซึ่งเป็นทางหนึ่งที่คณะสามารถทำได้ในขณะนี้

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

ที่มา : แนวหน้า

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button