ปรับบทบาทมหาวิทยาลัยรับไทยแลนด์ 4.0
ไทยแลนด์ 4.0 กำลังมาแรงส่งผลให้เกิดการขยับตัวขานรับในวงการอุดมศึกษา แบบไม่คาดคิดว่าจะฉับไวยิ่งกว่านกกระจอกกินน้ำซะอีก เหมือนรู้ว่านายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กำลังคิดอะไรอยู่กับยุทธศาสตร์ประเทศ ที่ต้องใช้การศึกษาเป็นหมากสำคัญตัวหนึ่ง
หลังจากใช้อำนาจ ม.44 เข้าไปจัดการกับ 2 ราชภัฏ ราชภัฏ สุรินทร์และราชภัฏชัยภูมิ ให้เห็นถึงความไร้ธรรมาภิบาล ตั้งแต่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมาแล้ว มาถึง ณ วันนี้ สิงหาคม ก็ยังไม่มีการดำเนินการสถาบันอุดมศึกษาแห่งใดได้ใบแดงให้เห็นอีก นอกจากเสียงขู่คำรามออกข่าวหวังผลเอาใจนายมาตลอดเดือนเศษ
ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo
สะท้อนให้เห็นการทำงานของระบบราชการไทย ข้าราชการไทย ไล่ไปถึงคณะกรรมการ กกอ.และผู้บริหารใน สกอ.ทั้งหลายได้ดีถึงคุณภาพและศักยภาพคนในระดับประเทศได้ดีว่ามีสภาพอย่างไร
ปัญหาทั้งหมดหากถูกไล่เลียงให้ตอบถึงความล่าช้า สูตรสำเร็จคือ อยู่ระหว่างแต่งตั้งคณะกรรมการบ้าง กำลังดำเนินการบ้าง กำลังรวบรวมตรวจสอบข้อเท็จจริงบ้าง มีความคืบหน้าแล้วแต่ทั่นประธานขอให้กลับไปทบทวนใหม่บ้าง กำลังสรุปนำเสนอให้ผู้มีอำนาจลงนามบ้าง อะไรทำนองนี้ เพื่อให้สบายใจกันไปก่อนทุกฝ่าย
เข้าทำนองลิเกออกแขก หรือตลกหน้าม่าน ให้ครึกครื้น ตื่นเต้นเอาไว้ก่อน ยังไงอย่างงั้น
อีกตัวอย่างหนึ่ง คือ ความเชื่อมโยงพลังประชารัฐที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญในไทยแลนด์ 4.0 ได้รับการตอบรับจากที่ประชุม ทปอ. 27 แห่ง และเครือข่ายองค์กรบริหารงานวิจัย แห่งชาติ (คอบช.) แล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมหาวิทยาลัย 7 แห่ง ออกมาเปิดตัวเป็นเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการวิจัย พร้อมเดินหน้าตอบโจทย์ไทยแลนด์ 4.0 ด้วยงานวิจัย 6 กลุ่มคลัสเตอร์ ประกอบด้วย
ด้านอาหารและการเกษตร ด้านพลังงาน ด้านสภาวะอากาศ ด้านวัสดุขั้นสูงที่เน้นด้านอุตสาหกรรม ด้านการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และด้านสุขภาพ แถมยังเพิ่มด้านดิจิตอลและด้านนวัตกรรมหุ่นยนต์ให้อีกด้วย
เพราะที่ผ่านมานั้นการวิจัยภาครัฐกับภาควิชาการไม่ได้ตอบสนองความต้องการของประเทศอย่างแท้จริง ไม่สร้างมูลค่าเพิ่มเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม อันเป็นที่มากับปรากฏการณ์ที่ เรียกว่างานวิจัยขึ้นหิ้ง
ฉับไวกันขนาดนี้แล้ว อย่าให้เป็นเหมือนลิเกออกแขก หรือตลกหน้าม่าน อย่าง สกอ.ก็แล้วกัน
ที่มา : ข่าวสด