มาแล้วลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ปลูกเห็ดฟางโดยไม่ใช้ฟาง ออกดอกใหญ่มาก

ช่วงนี้พอมีเวลาได้หายใจหายคอจากงานประจำบ้าง เลยเอาเวลามาทดลองเพาะเห็ดฟางด้วยวัสดุเพาะอื่นที่ไม่ใช่ฟางเพราะเห็นมีหลายกระทู้ที่โพสว่า อยากลองเพาะ แต่ติดว่าไม่มีฟาง หาฟางไม่ได้ วันนี้มาลองใช้อย่างอื่นกันค่ะ
วัสดุที่ใช้  
1 ขุยมะพร้าว ซื้อมาจากตลาดไท โซนต้นไม้ กระสอบละ 50 บาท (กระสอบใหญ่มาก)
2 ปุ๋ยคอก ซื้อมากจากตลาดไท โซนต้นไม้
3 เชื้อเห็ดฟาง ซื้อมาจากตลาดไท ร้านที่อยู่ใกล้ๆ วงเวียนโซนต้นไม้
4 แป้งข้าวเหนียว ข้าวจ้าว หรือ แป้งสาลีก็ได้ เอาที่มีอยู่ติดบ้าน แต่แป้งมันยังไม่เคยลองนะคะ (ของเราใช้แป้งสาลี เพราะซื้อไว้ทำขนมเค้ก)
5 อาหารเสริม เช่น ผักตบชวา ต้นกล้วยสับ หยวกกล้วย (ของเราใช้ผักตบชวา ไปงมมาจากคลองหน้าบ้าน แล้วเอามาหั่นเป็นท่อนๆ)
6 ถุงพลาสติก สีใส หรือสีดำก็ได้ สำหรับใช้คลุม
7 ตะกร้าตาห่างๆ
ตอนกลับบ้านต่างจังหวัดขนฟางที่บ้านมาด้วย เอาไว้คลุมแปลงผัก แอบมีเหลืออยู่นิดหน่อย เลยเอามาใช้เป็นวัสดุเพาะด้วย
เริ่มจากไปงมผักตบจากคลองกันค่ะ
ได้มาแล้วก็ ล้างผักตบเอาเศษโคลนออกสักหน่อย พร้อมกับแช่ฟางไว้เพาะด้วย สัก 1 คืน
ของเราแช่ฟางไว้ 1 คืน พอรุ่งเช้าก็มานั่งหั่นผักตบเป็นท่อนๆ ขั้นตอนนี้ ใครจะใช้ต้นกล้วย หยวกกล้วย ก้านกล้วยแทนก็ได้
แล้วต่อไปมาเตรียมวัสดุเพาะกัน นั่นคือ ขุยมะพร้าว
เอาขุยมะพร้าวมาผสมด้วยปุ๋ยคอก สัดส่วนเราไม่ได้ตวงนะ กะเอาพอประมาณ ให้ขุยมะพร้าวมีอาหารให้เชื้อเห็ดเดินบ้าง  แล้วคนให้เข้ากัน
ใส่น้ำเพิ่มความชื้น กะพอประมาณว่า เวลากำขุยมะพร้าวแล้วมันสามารถปั้นเป็นก้อนได้ ไม่มีน้ำไหลออกตามง่ามนิ้วเป็นใช้ได้ค่ะ
ได้วัสดุเพาะแล้ว ต่อไป มาเตรียมเชื้อเห็ดกันค่ะ เชื้อเห็ดที่ดีต้องมีใยเห็ดเดินเต็มถุง ไม่แก่เกินไป ตอนที่ไปซื้อก้อนเชื้อเห็ดมา คนขายบอกว่า ต้องรออีกสัก 3-4 วัน ถึงจะเพาะได้ เลยนั่งมองทุกวันด้วยจิตใจที่จดจ่อ 555555
ฉีกถุงก้อนเห็ดออกมา แล้วย่อยเชื้อเห็ดให้เป็นชิ้นเล็กๆ
ก้อนเห็ด 1 ก้อน โรยแป้งสัก 1-2 ช้อนโต๊ะ แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน
ได้เชื้อเห็ดสำหรับเพาะแล้ว ต่อไปเราจะลงมือเพาะกันแล้วน๊าาาาาาาาา
เอาขุยมะพร้าวที่ผสมไว้ รองก้นตะกร้า ให้มีความหนาสัก 1 นิ้ว แล้วกดให้แน่น แต่อย่าแน่นมากนะคะ
ชั้นต่อมา โรยด้วยอาหารเสริม คือผักตบที่หั่นท่อนไว้ (หรือใครที่ใช้ต้นกล้วย หยวกกล้วย ก้านกล้วย ก็เอามาใช้ได้ค่ะ)แล้วโรยทับด้วยปุ๋ยคอกบางๆ อย่าเยอะมาก เป็นการเพิ่มอาหารเสริมให้เห็ดค่ะให้โรยแค่ด้านขอบๆ ของตะกร้านะคะ เพราะชั้นนี้ เวลาเห็ดออก มันจะออกด้านข้างของตะกร้า ไม่ต้องโรยเต็มหน้า
จากนั้นโรยด้วยเชื้อเห็ดฟางที่ย่อยและผสมแป้งไว้ โรยแค่ขอบๆ อย่าเยอะมาก ก้อนเชื้อเห็ด 1 ก้อน สามารถเพาะเห็ดได้ 2-3 ตะกร้าเชียวนะคะ
ต่อไปก็ทับด้วยวัสดุเพาะคือขุยมะพร้าว โดยโรยให้เต็มหน้า แล้วกดให้แน่นพอประมาณ
ทำแบบนี้ 2 ชั้น ส่วนชั้นที่ 3 คือต้านบน ให้โรยอาหารเสริมเต็มหน้า โรยเชื้อเห็ดเต็มหน้า แล้วทับด้วยขุยมะพร้าวที่ผสมไว้เต็มหน้า
จะได้ทั้งหมด 3 ชั้นนะคะ ลักษณะจะออกมาแบบนี้
ส่วนใครที่หาฟางได้ ก็ใช้ฟางแทนขุยมะพร้าว ขั้นตอนการเพาะเหมือนกันเลยค่ะ เพียงแค่เปลี่ยนจากขุยมะพร้าวเป็นฟางข้าวแทน
หลังจากนั้นก็เอาตะกร้าที่เพาะเห็ดฟางไว้ มาเรียงกัน แล้วคลุมด้วยพลาสติก เพื่อทำให้เกิดความร้อน เชื้อเห็ดจะได้เดินของเราทำได้ 6 ตะกร้าค่ะ (ตะกร้าเราหมดพอดี เลยพอแค่นี้)
เอาราวตากผ้านี่แหล่ะค่ะมาทำ แล้วคลุมด้วยพลาสติกจะแบบใส หรือแบบดำก็ได้ แล้วแต่สะดวก ก่อนคลุมพลาสติก รดน้ำใส่ตะกร้าเห็ดให้ชื้นสักหน่อย แต่อย่าให้เปียกมากนะคะ เพราะพอเราคลุมพลาสติกแล้ว อีก 4-5 วันนู่น เราถึงจะเปิด เดี๋ยวมันจะแห้งเกินไป
ใครที่เพาะไม่เยอะ แค่ทดลอง จะใช้ถุงดำ หรือถุงพลาสติกใส่ ห่อก็ได้นะคะ
จากนั้นก็รอค่ะ ถ้าฝนตกอากาศร้อนชื้น ก็ 3-4 วัน ค่อยเปิดพลาสติก เพื่อทำการระบายอากาศและเป็นการตัดใยเห็ดเพื่อให้เห็ดสร้างตุ่มดอก
เดี๋ยวมาดูกันต่อ ใน คห. ข้างล่างนะคะ
ผ่านไป 3-4 วัน มาเปิดพลาสติกที่คลุมไว้ออก เพื่อระบายอากาศ ระหว่างนี้ ถ้าเห็นว่า วัสดุเพาะแห้งเกินไป ก็ใช้สายยางรดน้ำเพิ่มความชื้นสักหน่อย แต่อย่าให้เปียกชุ่ม และเพื่อเป็นการตัดใยเห็ดให้เห็ดได้สร้างตุ่มดอกด้วย เปิดทิ้งไว้สัก 30 นาที หรือ 1 ชม ก็ได้ค่ะ แล้วก็คลุมไว้ตามเดิม
จากนั้นก็คลุมพลาสติกทิ้งไว้ 2-3 วัน ค่อยมาเปิดดู จะเห็นเห็ดเริ่มสร้างตุ่มดอกเป็นเม็ดๆ บ้างแล้ว
ขั้นตอนนี้ อย่ารดน้ำนะคะ เดี๋ยวเห็ดจะฝ่อไม่ออกดอก ถ้าวันไหนเห็นว่าแดดแรงเกินไป ก็เปิดพลาสติกที่คลุมไว้ออกสัก 30นาที – 1 ชม เพื่อเป็นการระบายความร้อนบ้าง
ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ค่ะ จนกระทั้งเห็ดออกดอก ให้เก็บได้
อันนี้เห็ดรุ่นแรกค่ะ หลังจากเพาะได้สัก 10 วันส่วนอันนี้เห็ดรุ่นสอง หลังจากเพาะได้ 14 วันค่ะ ดอกใหญ่มาก ออกแม้กระทั่งก้นตะกร้า
เป็นอย่างไรบ้าง สามรถนำไปต่อยอดเป็นกิจกรรมลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ ได้หรือไม่ ต้องขอขอบคุณ คุณ Account_code  ที่ได้กรุณาเผยแพร่ข้อมูลดีๆ ให้ครูสามารถนำไปเป็นกิจกรรมการเรียนการสอนได้

ที่มา : pantip.com