ข่าวการศึกษา

จี้ศธ.เพิกถอนใบอนุญาตฯครูตีเด็กด้วยไม้พลอง

ทนายพร้อมแม่เด็ก 7 ขวบถูกครูตียื่นหนังสือถึง “ธีระเกียรติ” ลงโทษทางวินัยและเพิกถอนใบอนุญาตฯครูสาว ชี้เด็กหวาดกลัวและยังไม่ไปเรียนเตรียมพาเด็กตรวจร่างกายพรุ่งนี้

เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.59 เวลา 10.30 น.ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายวรกร พงศ์ธนากุล กรรมการสภาทนายความ พร้อมด้วยนางบุญสืบ ขันทอง มารดาเด็กชาย อายุ 7 ขวบ ชั้นป.3 โรงเรียนสังข์อ่ำวิทยา จังหวัดปทุมธานี ซึ่งถูก น.ส.ชลิดา ไพประจิตประภาภรณ์ ครูโรงเรียนวัดสังข์อ่ำ ใช้ไม้พองตี 99 ครั้งจนเป็นแผลฟกช้ำ ได้เข้ายื่นหนังสือ นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อขอให้ ศธ. ดำเนินการปลด น.ส.ชลิดา ออกจากครูผู้ช่วย เนื่องจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับการประกอบวิชาชีพครู โดยมี นายประเสริฐ บุญเรือง รองปลัด ศธ.รับเรื่องแทน  โดย นายวรกร กล่าวว่า ทางครอบครัวผู้เสียหายต้องการเรียกร้องให้ทาง ศธ.ดำเนินการลงโทษกับ น.ส.ชลิดา ซึ่งกระทำการทารุณและรุนแรงต่อเด็กซึ่งมีอายุเพียง 7 ปีให้ได้รับบาดเจ็บทั้งทางร่างกาย และส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจ เด็กไม่กล้าไปโรงเรียน ทั้งนี้ ขอให้ ศธ. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยต่อครูคนดังกล่าว รวมถึงขอให้เพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูด้วย อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ครูคนดังกล่าวจะยื่นหนังสือขอลาออก แต่การดำเนินคดีทางกฎหมายยังต้องดำเนินการต่อไป

 

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

“ที่มาในวันนี้ต้องการเรียกร้องให้มีการสอบสวนวินัย เพิกถอนใบอนุญาตฯ เพราะกระทำไม่เหมาะสมกับการเป็นครู เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ซึ่งในช่วงเช้าที่ผ่านมานายพัฒนะ งามสูงเนิน ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) ปทุมธานี เขต 1 พร้อมด้วย ผู้บริหารและคณะครูได้เดินทางมาเยี่ยมเด็กและครอบครัวที่บ้าน และได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวนหนึ่ง และได้บอกว่าหากผู้ปกครองและเด็กประสงค์จะย้ายโรงเรียนก็ยินดีดำเนินการให้ ทั้งนี้ ในวันที่ 28 ธ.ค.เวลา 10.00 น.จะนำเด็กเข้าตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติและพูดคุยกับจิตแพทย์เพื่อหารือการเยียวยาสภาพจิตใจ”นายวรกร กล่าว

ด้าน นางบุญสืบ กล่าวว่า ตั้งแต่เกิดเหตุบุตรชายเมื่อมีอาการตื่นตกใจ หวาดกลัว และไม่อยากไปโรงเรียน ซึ่งในฐานะแม่เห็นลูกแบบนี้รู้สึกเสียใจ พูดอะไรไม่ออก คิดว่าทำไมครูถึงทำโทษเด็กรุนแรงเกินกว่าเหตุ แค่เด็กลืมกระเป๋าตีกันแค่ทีสองทีก็พอแล้ว แต่วันที่เกิดเหตุครูคนดังกล่าวลงโทษบุตรชายตนและเพื่อน แต่เพื่อนบุตรชายโดนตีแค่ 2 ที แต่บุตรชายตนโดนหลายครั้ง ขนาดมีคนห้ามก็ยังไม่หยุด และยังบอกด้วยว่าจะตีให้ครบร้อยที ทั้งยังพูดใส่บุตรชายด้วยว่าเขาตีมาเยอะแล้ว ทั้งนี้ นับแต่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวทางครอบครัวได้เข้ามาเจรจาครั้งเดียว โดยบอกว่าจะช่วยค่ารักษา 50,000 บาท จากนั้นก็เงียบหายไป ซึ่งตนไม่ได้ต้องการเงินแต่อยากเห็นการแสดงความรับผิดชอบ และขอโทษต่อการกระทำที่เกิดขึ้น

“เวลานี้ลูกชายยังมีอาการตกใจและหวาดกลัว ไม่อยากไปเรียน ขนาดเมื่อเช้าเห็นครูมาเยอะๆก็มากอดแม่บอกไม่เอาๆ กระทั่งกลางคืนนอนก็ผวาร้องลั่นตกใจนึกว่าครูมา แม่ก็ไม่นึกว่าเขาจะเป็นขนาดนี้ซึ่งตอนนี้คงยังไม่ให้ลูกไปโรงเรียน ให้เขาดีขึ้นกว่านี้ก่อน แต่คงไม่ย้ายโรงเรียนเพราะว่าที่นี่ก็มีพี่ที่เป็นญาติเรียนอยู่อีก 3 คนใกล้บ้านเรียนมาตั้งแต่อนุบาล ส่วนครูอื่นๆเขาก็ยังดี แต่ครูคนนี้มาบรรจุใหม่แม่เองยังไม่ได้เห็นหน้าด้วยซ้ำ แม่ไม่ได้อยากได้เงินไม่ชอบอยู่แล้ว แค่อยากให้มาหาหน่อย น้อยใจทุกวันนี้ขอให้มาดูหน่อยว่าน้องเป็นไง แม่เห็นแผลทุกวันนี้ก็เสทือนใจลูกต้องเจ็บตัวจะนอนก็นอนไม่ได้”นางบุญสืบ  กล่าว

ขณะที่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ศธ.ไม่ได้นิ่งนอนใจและอยากขอโทษกับผู้ปกครองกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้จะดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด เบื้องต้นทราบว่าครูคนดังกล่าวเพิ่งสอบบรรจุเป็นครูผู้ช่วย ทำงานได้เพียง 1 เดือน ขณะที่ ศูนย์เฉพาะกิจช่วยเหลือและดูแลนักเรียน (ฉก.ชน.) ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบตั้งแต่เกิดเหตุ สอบถามพยานแวดล้อมชี้มูลตรงกันว่าครูกระทำการลงโทษเด็กจริง โดยขณะนี้ทาง สพป.ปทุมธานี เขต 1 ได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงแล้ว

ที่มา : คมชัดลึก

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button