ข่าวการศึกษา

สั่งทบทวนค่าวิทยฐานะผู้บริหารการศึกษา

รมว.ศธ.ชี้ปัจจุบันฟาด2เด้งรวมเงินตำแหน่ง/ครูอาชีวะ-กศน.มีวิทยฐานะแค่จิ๊บจ๊อย

“รมว.ศธ.” สั่ง ก.ค.ศ.ทบทวนเงินวิทยฐานะผู้บริหารการศึกษา ชี้ปัจจุบันได้ 2 เด้ง บวกเงินประจำตำแหน่งด้วย และควรได้แค่อย่างใดอย่างหนึ่ง เผยรัฐแบกค่าวิทยฐานะครูอื้อปีละ 3.5 หมื่นล้าน แต่ครูสังกัดอาชีวะ 30% และครู กศน. 20% ไม่ได้วิทยฐานะ แต่สังกัด สพฐ.ได้เกือบหมด ขาดแค่ 10%

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนได้มอบนโยบายเกี่ยวกับแนวทางการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินวิทยฐานะและหลักเกณฑ์การบริหารงานบุคคลอื่น ให้แก่ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ว่าการประเมินวิทยฐานะแนวใหม่จะยึดพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช คือดูความสามารถที่มีอยู่ในตัวคน ประสบการณ์การสอน ว่ามีปริมาณการสอนมากน้อยแค่ไหน ความยุ่งยากในการสอน เช่น สอนหลายวิชา สอนหลายชั้น หรือสอนเด็กจำนวนมาก เป็นต้น และการพัฒนาตนเอง ที่สะท้อนถึงความสามารถ เช่น การพัฒนาที่โรงเรียน การอบรมตามหลักสูตรที่ได้รับการรับรอง ซึ่งในการพิจารณาจะดูแฟ้มสะสมผลงาน หรือพอร์ตโฟลิโอ ที่ครูต้องเก็บหลักฐานการพัฒนาตนเองและการสอนใส่ไว้ โดยบันทึกลงในระบบไอทีในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์พอร์ตโฟลิโอ ดังนั้นจากนี้ สำนักงาน ก.ค.ศ.ไปกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตามนิยามใหม่ พร้อมทั้งจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้-ส่วนเสียให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน

“เรื่องนี้ถือเป็นการปฏิวัติระบบการประเมินวิทยฐานะ รวมถึงการนำระบบการประเมินขอคงวิทยฐานะตามมาตรา 55 ของ พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 ด้วย และขอให้มั่นใจว่าจะไม่มีการใช้กระดาษทำผลงานวิชาการอีกแล้ว” รมว.ศธ.กล่าว

นพ.ธีระเกียรติกล่าวต่อว่า ตนยังได้มอบให้ ก.ค.ศ.ไปทบทวนเรื่องวิทยฐานะผู้บริหารการศึกษาด้วย โดยอาจจะออกกฎหมายใหม่ให้เป็นเงินประจำตำแหน่ง เนื่องจากปัจจุบันผู้บริหารการศึกษาจะได้รับเงิน 2 เด้ง คือเงินประจำตำแหน่ง และเงินวิทยฐานะ ซึ่งก็จะต้องมาทบทวนกันใหม่ และแต่ละปีรัฐมีภาระจ่ายเงินวิทยฐานะถึงปีละ 35,000 ล้านบาท แต่กลับพบว่ามีครูที่ไม่มีวิทยฐานะสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร้อยละ 10 สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ร้อยละ 30 และสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) ร้อยละ 20 จึงเชื่อว่าหลักเกณฑ์ใหม่จะตอบแทนครูที่สอนทั้งมีปริมาณและมีคุณภาพได้อย่างเป็นธรรมมากขึ้น ไม่ใช่เน้นดูที่เอกสารผลงานวิชาการ อย่างไรก็ตาม การทำผลงานทางวิชาการยังคงเน้นอยู่ในวิทยฐานะเชี่ยวชาญและวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ

ด้านนายชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ปลัด ศธ.) กล่าวว่า นโยบายของ รมว.ศธ.ถือเป็นการเปลี่ยนนิยามใหม่ของการประเมินวิทยฐานะ เปลี่ยนแรงจูงใจให้ถูกทาง คือต้องมาสอนกับพัฒนาตนเองจึงจะได้วิทยฐานะ ซึ่งทำให้ครูอยากสอน อยากอยู่ห้องเรียน ไม่ใช่มุ่งใช้เวลาไปทำผลงานทางวิชาการ ทั้งนี้ ผลงานที่ใช้ประเมินอยู่ในขณะนี้เหมาะสำหรับใช้ในการให้ความดี ความชอบ ให้โบนัส แต่แบบใหม่จะดูว่าครูรู้มากน้อยแค่ไหน ส่วนร่างหลักเกณฑ์และวิธีการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวิทยฐานะ หรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและเชี่ยวชาญ ตามข้อตกลงในการพัฒนางาน หรือพีเอ (Performance Agreement : PA) ที่สำนักงาน ก.ค.ศ.เสนอมาก็ถือว่าล้มไป เพราะไม่สอดคล้องกับนิยามใหม่.

ที่มา : ไทยโพสต์

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button