ข่าวการศึกษา

หมอธี ปาฐกถาเรื่องกระบวนการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี

ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี 123/2560
บรรยาย “กระบวนการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี”

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวปาฐกถา เรื่อง “กระบวนการเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี” ในงานพิธีประกาศเกียรติคุณ “คนดีเมืองสกล” จัดโดยชมรมส่งเสริมคนดีเมืองสกล (ชสส.) เมื่อวันศุกร์ที่ 10 มีนาคม 2560 ณ หอประชุมมหาวชิราลงกรณ มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ กล่าวว่า การเลี้ยงดูเด็กปฐมวัยให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดีนั้นเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากมีงานวิจัยพบว่าการลงทุนในเด็กเล็ก คือ การลงทุนที่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่าที่สุด อีกทั้งยังพบว่าเด็กที่โตมาดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ติดยา นิสัยไม่ดี และพูดจาหยาบคาย ซึ่งนิสัยเหล่านี้ส่วนใหญ่ถูกสร้างมาตั้งแต่ตอนที่เป็นเด็ก โดยค่อย ๆ สั่งสมมา

ดังนั้น พ่อแม่จึงต้องสอนลูกตั้งแต่ยังเล็ก ๆ หรือตอนที่ลูกอยู่ในช่วงปฐมวัย เพราะวัยนี้เด็กจะมีพัฒนาการด้านต่าง ๆ ทั้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ซึ่งจะเป็นความรู้สึกที่เด็กสัมผัสได้ถึงความรัก ความดี และความไม่ดี แต่หากไม่สอนลูกตั้งแต่ยังเป็นเด็ก พอโตไปก็จะยิ่งสอนไม่ได้

ในส่วนของทฤษฎีการเลี้ยงลูกนั้น มีผู้ทำวิจัยและเขียนเป็นหนังสือจำนวนมาก ซึ่งยังไม่มีทฤษฎีใดดีที่สุด แต่ก็มีงานศึกษาวิจัยที่พบว่าพ่อแม่ที่มีลูกเก่งมีลักษณะอย่างไร และพ่อแม่ที่มีลูกดีมีลักษณะอย่างไร ซึ่งงานวิจัยของ ศ.นพ.เซอร์ ไมเคิล รัทเธอร์ จิตแพทย์เด็กชื่อดังชาวอังกฤษพบว่า พ่อแม่ที่มีลูกเก่ง คือ

1) พ่อแม่ที่พูดคุยและเล่นกับลูกมาก ด้วยการปฏิสัมพันธ์แบบสองทาง พูดคุยและฟังลูก ไม่ใช่พูดกับลูกฝ่ายเดียว
2) รู้ใจลูก พ่อแม่ที่มีลูกเก่งมักอ่านใจและอ่านอาการของลูกออก รวมทั้งรู้ว่าเวลาใดที่ควรเรียนและเวลาใดที่ลูกควรพัก
3) สนับสนุนลูกตามความสามารถของลูก เช่น สนับสนุนอุปกรณ์การศึกษา, ให้กำลังใจในการศึกษาเล่าเรียน เป็นต้น
4) หาประสบการณ์ กิจกรรม และของเล่นที่หลากหลาย เช่น พาลูกไปชมพิพิธภัณฑ์
5) สอนตรง กล่าวคือหากพ่อแม่ต้องการให้ลูกเก่งอะไรก็สอนสิ่งนั้น เช่น อยากให้อ่านหนังสือเก่งก็ต้องสอนอ่านหนังสือ, อยากให้เก่งดนตรีก็ต้องสอนดนตรี แต่ไม่ควรยัดเยียดให้ลูก ต้องรู้ใจ และดูความสามารถของลูกด้วย

ทั้งนี้ ความเก่งหรือ IQ จะมาจากกรรมพันธุ์เกินร้อยละ 50 ที่เหลือเป็นเรื่องของโอกาส คนรวยกับคนจนมีโอกาสไม่เท่ากัน หากต้องการมีลูกเก่งก็เป็นเรื่องของโอกาส แต่ถ้าต้องการมีลูกดีขึ้นอยู่กับการอบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่ตั้งแต่ลูกยังเล็ก ๆ ด้วยการสอนลูกว่าอะไรถูกอะไรผิด สอนให้มีความรักแผ่เมตตา ไม่ใช่แผ่แม่เบี้ย ตลอดจนสอนให้คิดก่อนทำ และสำคัญที่สุดคือเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็นและปฏิบัติตาม

นพ.ธีระเกียรติ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีจำนวนเด็กปฐมวัยกว่า 800,000 คน ซึ่งเข้าเรียนในสถานศึกษาสังกัดกระทรวงศึกษาธิการและสังกัดอื่น ๆ ทั่วประเทศ โดยมีเด็กจำนวนกว่า 100,000 คน ที่กระทรวงศึกษาธิการไม่มีข้อมูลว่าไปเข้าศึกษาในสถานศึกษาใด อย่างไรก็ตาม กระทรวงศึกษาธิการมีหน้าที่ดูแลเด็กเหล่านี้ โดยต้องให้ความสำคัญกับครูที่สอนปฐมวัยด้วย รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้สถานศึกษาในพื้นที่ที่อยู่ห่างไกล ส่วนสถานศึกษาที่ยังไม่ความพร้อมก็ไม่ควรขยายการรับเด็กเข้าศึกษา

ที่มา : ข่าวสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button