ศธ.เร่งเดินหน้ารื้อหลักสูตรคาดใช้จริงปี60
สพฐ.ชง รมว.ศธ.แต่งตั้งคณะ กก.ปฏิรูปหลักสูตรระดับชาติ ขณะเดียวกันก็หน้ารื้อหลักสูตรปี 51 คาดใช้เวลานำร่อง 1 ปี หลังจากนั้นนำมาประเมินผล ประกาศใช้จริงปี 2560
รศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารระดับสูงของ ศธ.ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงข้อห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้ ศธ.แก้ไขหลักสูตร ลดเวลาเรียน เพื่อให้เด็กมีเวลาทำกิจกรรม ทดลองปฏิบัติ ซึ่งล่าสุดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจะเสนอ รมว.ศึกษาธิการ ให้แต่งตั้งคณะกรรมการปฏิรูปหลักสูตรระดับชาติ คณะอนุกรรมการจัดทำรายละเอียด และคณะอนุกรรมการพัฒนาสื่อ
ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา สพฐ.ได้ดำเนินการปรับปรุงหลักสูตรโดยร่วมกับสถาบันวิจัยประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอ วิเคราะห์หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 โดยเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 มีการกำหนดทิศทางหลักสูตร รับฟังความคิดเห็น และยกร่างหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานฉบับใหม่ขึ้นมา จากนี้จะนำไปรับฟังความคิดเห็นเฉพาะกลุ่ม ก่อนที่จะนำหลักสูตรใหม่ไปทดลองนำร่อง ซึ่งคาดว่าต้องใช้เวลาในการทดลองหลักสูตรประมาณ 1 ปี และประเมินผลว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ ก่อนนำมาปรับปรุงขั้นสุดท้าย และนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) พิจารณา ก่อนเสนอให้ ศธ.ประกาศใช้จริง ซึ่งคาดว่าน่าจะประกาศได้ในกลางปี 2560
“ปกติหลังประกาศใช้หลักสูตรแต่ละฉบับจะใช้เป็นระยะเวลาประมาณ 10 ปี ซึ่งหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.2551 เพิ่งประกาศใช้มาได้ประมาณ 6 ปี ดังนั้นการปรับปรุงหลักสูตรครั้งนี้ถือว่าเร็วกว่าปกติ 4 ปี และคงดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็วไม่ได้ เพราะในการยกร่างหลักสูตรฉบับใหม่จะต้องมีเวลาเตรียมการด้านต่างๆ ทั้งบุคลากรและพัฒนาสื่อ ซึ่งใช้เวลาในการพัฒนาประมาณ 1 ปี”
รศ.นพ.กำจรกล่าวต่อไปว่า รมว.ศธ.ยังได้เน้นย้ำการประพฤติปฏิบัติตัวของข้าราชการว่า อย่าได้ประพฤติปฏิบัติทุจริตคอร์รัปชัน ขณะนี้ได้มีการประกาศ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 3) พ.ศ.2558 ในราชกิจจานุเบกษา ซึ่งมีโทษทั้งจำ ทั้งปรับ และถึงขั้นประหารชีวิต รวมถึงกำชับถึงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรื่องให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่จะดำเนินโครงการที่มีการจ้างบริษัทผู้รับจัดงาน หรือออร์แกไนเซอร์ ทำโฆษณาและประชาสัมพันธ์ที่มีวงเงินจัดจ้างตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป รายงานให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ (ค.ต.ร.) ทราบก่อนดำเนินการจัดจ้างล่วงหน้า 15 วัน.
ที่มา : ไทยโพสต์
[adsense620]