ข่าวการศึกษา

เปิดเทอม นายกฯ สั่งเดินหน้าลดเวลาเรียน – เน้นป้องกัน 4 เรื่อง

นายกรัฐมนตรี กำชับทุกโรงเรียนเตรียมพร้อมรับเปิดเทอม ตรวจสอบสภาพตึก วัสดุอุปกรณ์ รถรับส่ง เน้น 4 เรื่องเป็นพิเศษ พร้อมสั่งเดินหน้าลดเวลาเรียนเพิ่มเวลารู้ กระตุ้นเด็กพัฒนา Head&Heart ให้เข้มข้นขึ้น

วันนี้ (15 พ.ค.2559) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันพรุ่งนี้ (16พ.ค.) โรงเรียนส่วนใหญ่จะเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กำชับให้ทุกโรงเรียนเตรียมพร้อมรับเปิดเทอม โดยขอให้ตรวจสอบสภาพแวดล้อมให้สะอาด ซ่อมแซมอาคารเรียน ประตูรั้ว เครื่องเล่นสนาม ระบบไฟฟ้าประปาให้มั่นคงแข็งแรง สำรวจจุดอันตรายในบริเวณโรงเรียน ตรวจสอบสภาพรถรับ-ส่งนักเรียนและความพร้อมของคนขับเพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่นักเรียน

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

“ในปี 2559 ท่านนายกฯ ได้เน้นย้ำเป็นกรณีพิเศษ 4 เรื่อง เพื่อให้ ร.ร.วางแนวทางป้องกันหรือแก้ไขปัญหาไว้แต่เนิ่น ๆ คือ
1.การพนันทายผลฟุตบอลที่แพร่หลายเข้าสู่กลุ่มเด็กและเยาวชนตั้งแต่ระดับประถมจนถึงมหาวิทยาลัย โดยเฉพาะการแข่งขันฟุตบอลยูโรที่จะมีขึ้นในระหว่าง 10 มิ.ย.-10 ก.ค.59
2. โรคไข้เลือดออก โรคชิกุนคุนย่า โรคซิกาไวรัส ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะจะพบผู้ป่วยมากในช่วงเวลานี้
3. อุบัติเหตุทางรถยนต์ รถจักรยานยนต์ ซึ่งจะเกิดบ่อยครั้งในช่วงเริ่มเปิดเทอม
4.นักเรียนก่อเหตุทะเลาะวิวาทในช่วงเปิดเทอมไปแล้ว 2 – 3 สัปดาห์ 

พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรียั่งได้สั่งการให้ ศธ.เดินหน้าขับเคลื่อนนโยบายลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ให้มีคุณภาพมากขึ้น หลังจากพบว่าครู นักเรียน และผู้ปกครองตอบรับเป็นอย่างดี โดยในปี 2559 นี้ จะขยายผลโรงเรียนเพิ่มเติมอีก 15,897 โรงเรียน อบรมพัฒนาสมาร์ทเทรนเนอร์ รุ่น 2 และให้โรงเรียนได้ปรับรูปแบบของกิจกรรมให้เหมาะสมกับพื้นที่และความต้องการของผู้เรียน โดยศึกษาข้อมูลได้จากคลังเมนูกิจกรรมสนับสนุน “ลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้” ที่กระทรวงได้จัดทำขึ้น

“ท่านนายกฯ อยากให้โรงเรียนเน้นพัฒนากิจกรรมด้านการคิดวิเคราะห์ (Head) และคุณธรรมจริยธรรม (Heart) ให้มากขึ้น เพราะที่ผ่านมายังไม่เข้มข้นเท่าที่ควร อย่างไรก็ตามพบว่า นโยบายดังกล่าวช่วยให้นักเรียนมีความสามัคคี มีน้ำใจ ได้ฝึกการทำงานเป็นกลุ่ม รู้จักหน้าที่ และได้ค้นพบความถนัดของตนเอง เพื่อเป็นแนวทางศึกษาต่อและประกอบอาชีพ”

ที่มา : ไทยพีบีเอส

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button