ครม.อนุมัติเพิ่มเงินอุดหนุนเงินเดือนครูเอกชน
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผย
ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo
- อนุมัติการจัดสรรเงินอุดหนุนสบทบเงินเดือนครูเพิ่มให้แก่โรงเรียนเอกชน 545 ล้านบาท
พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ ดังนี้
- อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีประมาณ พ.ศ. 2559 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 216,059,600 บาท โดยแยกเป็นสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) จำนวน 151,548,700 บาท และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จำนวน 64,510,900 บาท เพื่อเป็นค่าจัดการเรียนการสอน (ปรับเพิ่มเงินอุดหนุนสมทบเป็นเงินเดือนครู ร้อยละ 4) ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 และปีงบประมาณ พ.ศ. 2559
- อนุมัติหลักการให้ ศธ. ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 (เงินกันไว้เบิกเหลื่อมปี) จำนวน 328,849,300 บาท เพื่อเบิกจ่ายเป็นเงินอุดหนุนค่าจัดการเรียนการสอน (ปรับเพิ่มเงินอุดหนุนสมทบเป็นเงินเดือนครูร้อยละ 4) ของปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
สาระสำคัญของการจัดสรรเงินอุดหนุนสมทบเงินเดือนครูเพิ่มให้แก่โรงเรียนเอกชนที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอมาในครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรี (26 มิถุนายน 2550) ที่อนุมัติหลักการให้กระทรวงศึกษาธิการปรับเพิ่มเงินเดือนครูโรงเรียนเอกชนในอัตราเดียวกันทุกครั้งที่มีการปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการ และเป็นการดำเนินการเพื่อให้สอดรับกับการปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการอีกร้อยละ 4 ของเงินเดือนที่ได้รับอยู่ ตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 โดยมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2557
นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2555 เมื่อรัฐบาลมีนโยบายปรับเพิ่มเงินเดือนวุฒิปริญญาตรีเป็น 15,000 บาท คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2557 อนุมัติจัดสรรเงินอุดหนุนสมทบเงินเดือนครูเพิ่มให้แก่โรงเรียนเอกชน ในลักษณะคล้ายคลึงกัน โดยเป็นการปรับเพิ่มเงินเดือนข้าราชการครูวุฒิปริญญาตรี
- รับทราบร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. …. ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีส่งร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง ให้ยกเลิกกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ศธ. พ.ศ. 2548 และปรับปรุงการจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ศธ. เสียใหม่ โดยแก้ไขชื่อ “คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม” เป็น “คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม” เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจและการดำเนินงานในปัจจุบัน
นอกจากนี้ ให้จัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ศธ. รวม 11 ส่วนราชการ ดังนี้ (1) สำนักงานอธิการบดี (2) คณะครุศาสตร์ (3) คณะเทคโนโลยีการเกษตร (4) คณะเทคโนโลยีสารสนเทศ (5) คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (6) คณะวิทยาการจัดการ (7) คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (8) คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม (9) สถาบันวิจัยและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม (10) สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ และ (11) สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน
ที่มา : ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ