ผลการประชุม ก.ค.ศ. 6/2560
นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 6/2560
ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo
ที่ประชุมเห็นชอบให้นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษา ในหลักสูตรปริญญาตรี 5 ปี หรือปริญญาตรี 4 ปี ที่มีการศึกษาต่อในระดับประกาศนียบัตรบัณฑิตอีก 1 ปี ที่อยู่ในระหว่างการขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูจากคุรุสภา สามารถใช้เอกสารที่สำเนาจากหน้าจอ “การตรวจสอบสถานะการขึ้นทะเบียนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ” ซึ่งระบุเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน ชื่อผู้ขอ เลขที่ใบอนุญาต และกำหนดวันออกใบสมัคร ไปใช้ในการยื่นสมัครสอบใน 36 สาขาวิชาได้ก่อน เมื่อเป็นผู้สอบแข่งขันได้และอยู่ในลำดับที่จะบรรจุและแต่งตั้ง จึงนำใบอนุญาตฉบับจริงมาแสดงในวันรายงานตัว ทั้งนี้มีเงื่อนไขสำหรับผู้สมัครสอบเป็นครุผู้ช่วยใน 36 วิชา ต้องได้รับอนุญาตภายในวันที่ 4 เมษายน 2560 เท่านั้น
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้อนุมัติตั้ง อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเฉพาะกิจเกี่ยวกับการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัด สพฐ. โดยให้มีหน้าที่ในการพิจารณาวินิจฉัยปัญหา และตอบข้อซักถามที่เกี่ยวข้องกับการสอบแข่งขันฯ ในครั้งนี้ โดยมีคณะกรรมการมาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย เป็นประธาน เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากสำนักงาน ก.ค.ศ. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ที่ปรึกษาสำนักงาน ก.ค.ศ. ด้านกฎหมาย เป็นกรรมการ โดยสามารถดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
เห็นชอบตั้ง อ.ก.ค.ศ. วิสามัญ เพื่อทำการใด ๆ แทน ก.ค.ศ. จำนวน 11 คณะ ดังนี้
1) อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับการพัฒนานโยบายและระบบบริหารงานบุคคล
2) อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการเสริมสร้างและพัฒนาประสิทธิภาพและการปฏิบัติราชการ
3) อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
4) อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับกฎหมายและระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
5) อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับวินัย และการออกจากราชการ
6) อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการอุทธรณ์และการร้องทุกข์
7) อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการร้องทุกข์ และการร้องเรียนขอความเป็นธรรมเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
8) อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการกำกับ ติดตาม และประเมินผลการบริหารงานบุคคล
9) อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้
10) อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับวิทยฐานะข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
11) อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค.(2)
การยกเลิกเกณฑ์ประเมินวิทยฐานะเชิงประจักษ์ ว13/2556
ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ตามหลักเกณฑ์ ว13/2556
สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้รายงานว่าขณะนี้ได้รับคำขอจากส่วนราชการต้นสังกัด จำนวน 5,337 ราย ขณะนี้ได้มีการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ขอรับการประเมินไปแล้ว 6 ครั้ง ในรายที่จะเกษียณอายุราชการ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 ซึ่งจากการพิจารณาจาก 154 ราย เป็นผู้มีคุณสมบัติเพียง 30 ราย ไม่มีคุณสมบัติ 123 ราย ขอถอนคำขอรับการประเมิน 1 ราย พบว่าผู้ที่ไม่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติส่วนใหญ่รายงานไม่ครบถ้วนตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด และรางวัลที่ได้รับไม่เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด เป็นต้น จึงเสนอขอความเห็นต่อที่ประชุมเพื่อพิจารณาแนวปฏิบัติในการดำเนินการจาก ก.ค.ศ. ซึ่ง ก.ค.ศ. พิจารณาแล้วมีมติดังนี้
1) เห็นควรให้สำนักงาน ก.ค.ศ. ดำเนินการในการพิจารณาคำขอที่เหลือทั้งหมดตามกระบวนการขั้นตอน หากผู้ใดเป็นผู้ไม่มีคุณสมบัติตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด ให้ถือว่าผู้นั้นไม่มีคุณสมบัติที่จะได้รับการประเมิน โดยมติ ก.ค.ศ. ถือเป็นอันสิ้นสุด ไม่ให้มีการขอพิจารณาทบทวน และเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เสนอแนะให้สำนักงาน ก.ค.ศ. เร่งรัดประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพิจารณากลั่นกรองคุณสมบัติของผู้เสนอขอให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กำหนด
2) ให้ยกเลิกหลักเกณฑ์และวิธีการการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้มีผลงานดีเด่นที่ประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ มีวิทยฐานะหรือเลื่อนเป็นวิทยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชี่ยวชาญ ตามหลักเกณฑ์ ว13/2556
3) สำหรับผู้ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติ หากมีการประกาศใช้หลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะใหม่ สามารถยกเลิกคำขอตามหลักเกณฑ์เก่า และมายื่นเสนอขอตามหลักเกณฑ์ใหม่ได้ ซึ่งขั้นตอนการประเมินคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน
ข่าวโดย :
นวรัตน์ รามสูต, ดรุวรรณ บุญมาก, บัลลังก์ โรหิตเสถียร: สรุป/รายงาน
ยุทธพงศ์ เลือกกลั่นดี: ถ่ายภาพ
29/3/2560
ที่มา : ข่าวสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ