ร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ….(รับฟังความเห็นตั้งแต่ 5 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป)
ร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ….(รับฟังความเห็นตั้งแต่ 5 มีนาคม 2562 เป็นต้นไป)
จากร่างเดิมที่รับฟังความคิดเห็น 25 กุมภาพันธ์ – 12 มีนาคม 2562 ฉบับเดิม
มีจำนวน 101 มาตรา และมีปัญหาในมาตราที่เป็นประเด็น เช่น
ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo
1. มาตรา 35 แต่งตั้งใครก็ได้เป็นผู้ช่วยครูใหญ่ ไม่จำเป็นต้องเป็นครู
2. มาตรา 37 เกี่ยวกับการเปลี่ยนผู้อำนวยการโรงเรียนเป็นครูใหญ่
3. มาตรา 38 เปลี่ยนใบประกอบวิชาชีพครู เป็น ใบรับรองความเป็นครู
4. มาตรา 99 เรื่องวิทยฐานะของครูใหญ่
ซึ่งประเด็นทางโลกออนไลน์และทางสมาคมครูต่างๆ ต่างไม่เห็นด้วยและทำหนังสือคัดค้าน ตอนนี้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้เผยแพร่อีกฉบับ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นฉบับแก้ไขใหม่ (แต่ในเอกสารก็ไม่ได้เขียนว่าแก้ไข) ซึ่งตอนนี้เพิ่มขึ้นมาอีก 2 มาตรา รวมเป็น 103 มาตรา แล้ว โดยเปิดให้ แสดงความคิดเห็นผ่านทางเว็บไซต์ของสํานักงาน
คณะกรรมการกฤษฎีกา www.krisdika.go.th ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๕ มีนาคม ๒๕๖๑ เป็นต้นไป
ดาวน์โหลด ฉบับใหม่
ซึ่งในหน้าเหตุผลของการตรา พรบ. นี้ ว่าไว้ดังนี้
รวมถึงมีการเพิ่มข้อความต่างๆลงในแต่ละมาตรา เพื่อความชัดเจนมากขึ้น (ลองเปิดสองไฟล์ ที่ลิ้งก์ใว้ให้เทียบกันไปแต่ละหน้าดูครับ) รวมทั้งอาจตัดทอนข้อความลงไป เช่น ในมาตรา 7 ที่พูดถึงสมรรถนะ 4 อย่าง แต่ฉบับใหม่ให้เป็นแบบบูรณาการ
ที่นี้ลองมาดูเรื่องวิทยฐานะ พูดไว้ในมาตราใดบ้าง ยกตัวอย่างเช่น
มาตรา 14 การจัดการศึกษาของสถานศึกษาของรัฐต้องอยู่บนพื้นฐาน (10) การเลื่อนวิทยฐานะหรือเลื่อนตําแหน่งของครู ให้พิจารณาจากผลการปฏิบัติงานที่สะท้อนพัฒนาการและผลสัมฤทธิ์ตามวัตถุประสงค์ตามมาตรา 6 และเป้าหมายตาม มาตรา 8 และความสามารถในความเป็นครู (ซึ่งฉบับเดิมไม่มี มีแค่ (7) )
มาตรา 39 ให้ครูใหญ่ ผู้ช่วยครูใหญ่ และครูในสถานศึกษาของรัฐได้รับเงินเดือนเงินวิทยฐานะ เงินประจําตําแหน่ง และค่าตอบแทนอื่นตามที่กําหนดในกฎหมายว่าด้วยการนั้นครูใหญ่ ผู้ช่วยครูใหญ่ และครูอาจมีระดับตําแหน่งเพื่อให้เกิดความเจริญก้าวหน้าในการปฏิบัติหน้าที่ได้ตามที่กําหนดในกฎหมายว่าด้วยการนั้น ครูใหญ่และผู้ช่วยครูใหญ่อาจมีชื่อตําแหน่งเรียกเป็นอย่างอื่นตามที่กําหนดในกฎหมายว่าด้วยการนั้นได้
มาตรา 101 ให้ผู้อํานวยการสถานศึกษาและรองผู้อํานวยการสถานศึกษาซึ่งดํารงตําแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เป็นครูใหญ่และผู้ช่วยครูใหญ่ตามพระราชบัญญัตินี้ แล้วแต่กรณี และมีสิทธิได้รับเงินเดือน เงินประจําตําแหน่ง เงินวิทยฐานะ และประโยชน์ตอบแทนอื่นตามอัตราเดียวกับที่ผู้อํานวยการสถานศึกษาและรองผู้อํานวยการสถานศึกษา ได้รับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
มาตรา 102 ให้ผู้ซึ่งดํารงตําแหน่งศึกษานิเทศก์อยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ เป็นศึกษานิเทศก์ตามพระราชบัญญัตินี้ และมีสิทธิได้รับเงินเดือน เงินประจําตําแหน่งเงินวิทยฐานะ และประโยชน์ตอบแทนอื่นเช่นเดียวกับที่ได้รับอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
ต่อไปมาดูเรื่อง ใบประกอบวิชาชีพ หรือ ใบรับรองความเป็นครู
เรื่องนี้แต่เดิมจะให้เป็น ใบรับรองความเป็นครู ส่วนฉบับใหม่พูดถึง ใบประกอบวิชาชีพ ตั้งแต่เหตุผลของร่างเลย
…พัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพครูให้ได้ผู้มีจิตวิญญาณของความเป็นครู มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง…
และถูกพูดถึงอีกในมาตรา 100 คือ
มาตรา 100 ให้ครูซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษาอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ยังคงมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูและปฏิบัติหน้าที่ครูได้ต่อไปตามพระราชบัญญัตินี้ และให้สามารถต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ต่อไป
โดยถือเสมือนหนึ่งเป็นครูผู้ได้รับใบรับรองความเป็นครู ตามพระราชบัญญัตินี้
ครูซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่และยังไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษาอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ มีสิทธิขอรับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูตามกฎหมายดังกล่าวหรือจะขอใบรับรองความเป็นครูตามพระราชบัญญัตินี้ก็ได้
ครูซึ่งได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสอง หากประสงค์จะเปลี่ยนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูเป็นใบรับรองความเป็นครูตามพระราชบัญญัตินี้ ให้แจ้งให้คุรุสภาทราบภายในห้าปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ และให้คุรุสภาดําเนินการออกใบรับรองความเป็นครูให้ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง
แต่ในมาตรา 37 ยังพูดถึง ใบรับรองความเป็นครู โดยไม่่ได้พูดถึง ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู แต่ในมาตรา 100 ได้กล่าวถึงว่า ผู้ถือใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ เสมือนหนึ่งผู้ถือใบรับรองความเป็นครู
มาตรา 37 ครูซึ่งจัดกระบวนการเรียนรู้เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามมาตรา ๘ (๒)(๓) (๔) (๕) และ (๖) (ข) ต้องมีใบรับรองความเป็นครู เว้นแต่เป็นผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและจัดกระบวนการเรียนรู้วิชาหนึ่งวิชาใดเป็นการเฉพาะตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กระทรวงศึกษาธิการกําหนด
ส่วนเรื่องครูใหญ่จะถูกพูกถึงชัดเจนใน มาตรา 4 / 14 / 38 / 39 /40 /41 /42 /101 ดาวน์โหลด ฉบับใหม่
หากท่านต้องการแสดงความคิดเห็นให้ไปแสดงความคิดเห็นที่เว็บไซต์ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฏีกา คลิกที่นี่
ส่วนวิธีการดูได้ที่นี่
วิธีร่วมแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.
https://rukkroo.com/17425