ข่าวการศึกษา

ผลการประชุม ก.ค.ศ. 2/2560

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 2/2560 เมื่อวันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2560  ณ ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ว่าที่ประชุมได้มีมติในเรื่องสำคัญ ดังนี้

1. เห็นชอบหลักเกณฑ์ฯ คัดเลือก ผอ./รอง ผอ. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

2. อายุการขึ้นบัญชีสอบครูผู้ช่วย 1 ปี

3. อนุมัติให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด และสำนักงานศึกษาธิการภาค เป็นหน่วยงานการศึกษา

4. เห็นชอบปรับปรุงหลักเกณฑ์ฯ คัดเลือกบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2)

5. อนุมัติย้าย ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 1 ราย 

เห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

ที่ประชุมเห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

  • คุณสมบัติของผู้เข้ารับการคัดเลือก ให้เป็นไปตามมาตรฐานตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โดยไม่มีการแบ่งกลุ่ม

  • หลักสูตรการคัดเลือก แบ่งออกเป็น 3 ภาค คือ
    ภาค ก  ความรู้ความสามารถ ประวัติ ประสบการณ์ทางการบริหาร และผลงาน ประกอบด้วย
    1) การสอบข้อเขียนความรู้ความสามารถ เกี่ยวกับการบริหารงานในหน้าที่ การวิเคราะห์กฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานและการนำไปใช้
    2) การประเมินประวัติและประสบการณ์ทางการบริหาร
    3) การประเมินผลงาน
    ภาค ข
      ความเหมาะสมกับการปฏิบัติหน้าที่ ประกอบด้วยการประเมินศักยภาพ
    ภาค ค  ความเหมาะสมกับตำแหน่ง ประกอบด้วยการประเมินวิสัยทัศน์และแนวทางการพัฒนาเขตพื้นที่การศึกษา และการสัมภาษณ์

  • ให้ สพฐ. ดำเนินการ กำหนดจำนวนตำแหน่งว่างที่จะใช้บรรจุและแต่งตั้ง องค์ประกอบ ตัวชี้วัด คะแนนการประเมิน และวิธีการประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่ ผู้ที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้ง และกำหนดข้อตกลงในการปฏิบัติงานในหน้าที่ผู้ที่ได้รับการบรรจุและแต่งตั้ง

  • ให้คณะกรรมการสรรหาผู้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ดำเนินการกำหนดวันและเวลาในการดำเนินการคัดเลือก ดำเนินการและบริหารจัดการในการออกข้อสอบ กำหนดตัดชี้วัด องค์ประกอบการประเมิน และคะแนนการประเมิน ตั้งคณะกรรมการประเมิน และดำเนินการคัดเลือก ซึ่งอาจมอบ สพฐ. หรือแต่งตั้งคณะกรรมการและเจ้าหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการดำเนินการคัดเลือกได้ตามความจำเป็นและเหมาะสม

  • ผู้สมัครต้องยื่นสมัครตามวัน เวลา สถานที่ ตามรูปแบบและวิธีการที่กำหนด และให้เลือกสมัครเข้ารับการคัดเลือกได้เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากสมัครเกินกว่า 1 แห่ง จะถูกตัดสิทธิ์การคัดเลือกทั้งหมด และจะต้องรับรองตนเองด้วยว่าไม่ติดเงื่อนไขการปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือเงื่อนไขอื่นใดที่ ก.ค.ศ. กำหนด

  • เกณฑ์การตัดสิน แบ่งเป็น 2 ช่วง คือ
    ช่วงที่ 1  ผู้ผ่านการคัดเลือกต้องได้คะแนนภาค ก และภาค ข แต่ละภาคไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 และคะแนนรวมทั้งสองภาคไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 โดยให้ประกาศรายชื่อจำนวน 2 เท่าของตำแหน่งว่าง เพื่อเข้ารับประเมินภาค ค กรณีได้คะแนนรวมเท่ากัน ให้ผู้ที่ได้คะแนนภาค ก มากกว่าอยู่ในอันดับที่ดีกว่า หากคะแนนเท่ากันอีก ให้ผู้ที่มีอาวุโสมากกว่าตามแนวปฏิบัติการจัดลำดับอาวุโสในราชการอยู่ในลำดับที่ดีกว่า
    ช่วงที่ 2  ผู้ได้รับการคัดเลือกต้องได้คะแนนรวมภาค ก ภาค ข และภาค ค ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60 และให้ประกาศรายชื่อเท่ากับจำนวนตำแหน่งว่างที่ประกาศรับสมัคร โดยเรียงลำดับจากผู้ที่ได้คะแนนรวมมากไปหาน้อย เพื่อเข้ารับการพัฒนาก่อนการบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว
    กรณีได้คะแนนรวมเท่ากัน ให้ผู้ที่ได้คะแนนภาค ก มากกว่าอยู่ในอันดับที่ดีกว่า หากคะแนนภาค ก เท่ากัน ให้ผู้ทีได้คะแนนภาค ข มากกว่าอยู่ในลำดับที่ดีกว่า หากคะแนนภาค ข เท่ากันอีก ให้ผู้ที่มีอาวุโสมากกว่าตามแนวปฏิบัติการจัดลำดับอาวุโสในราชการอยู่ในลำดับที่ดีกว่า

  • ให้บรรจุและแต่งตั้งตามจำนวนตำแหน่งว่าง โดยไม่มีการขึ้นบัญชี

  • ผู้ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งต้องได้รับการประเมินสัมฤทธิผลการปฏิบัติงานในหน้าที่เพื่อพัฒนาการศึกษาเป็นระยะเวลา 1 ปี โดยให้มีการประเมิน 2 ครั้ง ทุก 6 เดือน หากผลการประเมินรวมทั้ง 2 ครั้งไม่ผ่านเกณฑ์การประเมิน จะดำเนินการตามมาตรา 71 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 และกฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษารับเงินเดือนในอัตราทดแทน พ.ศ. 2551 (หรือให้กลับไปที่ตำแหน่งเดิม)

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้เห็นชอบ (ร่าง) หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งมีกรอบของหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกเช่นเดียวกับการคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา


เห็นชอบให้กำหนดอายุการขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ในการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับราชการ เป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ครั้งที่ 1 ปี พ.ศ.2560

โดยกำหนดให้บัญชีผู้สอบแข่งขันได้ ให้ใช้ได้ไม่เกิน 1 ปี นับแต่วันประกาศขึ้นบัญชีผู้สอบแข่งขันได้

นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ กล่าวด้วยว่า ที่ประชุมได้ขอให้ สพฐ. กำหนดปฏิทินปฏิบัติงานการคัดเลือกบุคคลฯ ตำแหน่งครูผู้ช่วย รวมทั้งกรณีที่มีความจำเป็นหรือมีเหตุพิเศษ ปี พ.ศ.2560 ให้รวดเร็วยิ่งขึ้นอย่างน้อย 10 วัน จากเดิมที่เคยดำเนินการมา โดยขอให้กระบวนการทุกอย่างดำเนินการเสร็จสิ้นภายในเดือนเมษายน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อโรงเรียนเอกชน เพราะโรงเรียนเอกชนเคยร้องเรียนมาที่รัฐมนตรีและปลัดกระทรวงศึกษาธิการหลายครั้งแล้วว่าได้รับผลกระทบและเดือดร้อนในเรื่องนี้ ดังนั้น จะมีการแก้ไขกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความรวดเร็วยิ่งขึ้น และให้โรงเรียนเอกชนได้มีเวลาเตรียมตัวในการสรรหาครูมาแทนผู้ที่สอบแข่งขันได้ทันก่อนเปิดภาคเรียน

นอกจากนี้ จะมีการแก้ไขระเบียบคุรุสภาเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ที่มีสิทธิ์สอบ  เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ โดยเปิดกว้างให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ สาขาเฉพาะ สาขาที่ขาดแคลน หรือสาขาที่มีความต้องการพิเศษ แต่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพให้มีโอกาสมาสมัครได้ โดยคุรุสภาจะออกใบอนุญาตประกอบการสอนให้ก่อน


อนุมัติกำหนดให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัด และสำนักงานศึกษาธิการภาค เป็นหน่วยงานการศึกษา

ซึ่งเป็นไปตามมาตรา 4 (5) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 ที่กำหนดว่า “หน่วยงานการศึกษา” หมายความว่า

(1) สถานศึกษา

(2) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

(3) สำนักงานการศึกษานอกโรงเรียน

(4) แหล่งการเรียนรู้ตามประกาศของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

(5) หน่วยงานตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ หรือตามประกาศกระทรวง หรือ หน่วยงานที่คณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากำหนด และมาตรา 41 ที่กำหนดว่า ตำแหน่งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา จะมีในหน่วยงานการศึกษาใด จำนวนเท่าใด และต้องใช้คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งอย่างใด ให้เป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด

ทั้งนี้ เพื่อการบริหารจัดการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล และที่ส่วนเกี่ยวข้อง เป็นไปตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2559 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2559 เรื่อง การบริหารราชการของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค


เห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ตำแหน่งประเภททั่วไป เพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

ตามหลักเกณฑ์ฯ ว 11/2559 ลงวันที่ 9 กันยายน 2559 ใน 2 ประเด็น คือ

1) ข้อ 5.3 จากเดิม กำหนดคุณสมบัติคุณสมบัติ ต้องเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไป รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าขั้นต่ำของตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ เป็น “เป็นผู้ดำรงตำแหน่งประเภททั่วไป รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท”

2) ข้อ 11.3 จากเดิม ให้บรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ โดยให้ได้รับเงินเดือนเท่าเดิม แต่ต้องไม่สูงกว่าขั้นสูงของระดับปฏิบัติการ เป็น “ให้บรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับปฏิบัติการ โดยให้ได้รับเงินเดือนเท่าเดิม กรณีที่เงินเดือนสูงกว่าขั้นสูงของระดับปฏิบัติการ ให้ได้รับเงินเดือนตามหลักเกณฑ์และวิธีการตามหนังสือสำนักงาน ก.พ. ที่ นร. 1012.2/258 ลงวันที่ 27 กันยายน 2559

อนุมัติย้ายผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

ที่ประชุมอนุมัติย้าย นายธนู นูนน้อย ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 15 (นราธิวาส ปัตตานี และยะลา) ไปดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 (สงขลา และสตูล) ทั้งนี้ เพื่อความเหมาะสมและประโยชน์ของทางราชการในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา

ที่มา : ข่าวสำนักงานรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button