ข่าวการศึกษา

ผลการประชุม ก.ค.ศ. 4/2559

พล.อ.ดาว์พงษ์  รัตนสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ครั้งที่ 4/2559 เมื่อวันพุธที่ 11 พฤษภาคม 2559 ณ ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

เห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์การใช้บัญชีรายชื่อตำแหน่งครูผู้ช่วย

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

รมว.ศึกษาธิการ กล่าวว่า เพื่อเป็นการช่วยปลดล็อคการทำงานของคณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด (กศจ.) เกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคให้มีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ที่ประชุมจึงได้มีการพิจารณาและเสนอความเห็นอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการแก้ไขหลักเกณฑ์และวิธีการนำรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีหนึ่งไปขึ้นบัญชีเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในบัญชีอื่น ตำแหน่งครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งหลักเกณฑ์เดิมมีเงื่อนไขกำหนดให้ขอใช้บัญชีได้เฉพาะสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่เปิดสอบแข่งขันแล้วไม่มีผู้สมัครสอบแข่งขัน หรือไม่มีผู้สอบแข่งขันได้หรือผู้สอบแข่งขันได้ไม่เพียงพอกับตำแหน่งว่างเท่านั้น และต้องขอความเห็นชอบ สพฐ.ก่อนดำเนินการ

ดังนั้น เพื่อให้การบริหารจัดการบัญชีมีความคล่องตัว แก้ไขปัญหาการขาดครูผู้สอน และลดงบประมาณในการสอบแข่งขันใหม่ ที่ประชุมจึงมอบสำนักงาน ก.ค.ศ. สำรวจและรวบรวมบัญชีรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในสาขาวิชาเอกเดียวกันในแต่ละจังหวัด เพื่อนำมาเป็นข้อมูลในการรวมบัญชีในนามของ กศจ. พร้อมให้อำนาจใช้บัญชีข้ามเขตในจังหวัดของตัวเองได้ โดยสำนักงาน ก.ค.ศ.จะร่วมกับ สพฐ. เร่งจัดทำรายละเอียดบัญชีให้แล้วเสร็จภายใน 1 สัปดาห์มานำเสนอ รมว.ศึกษาธิการ จากนั้นจะออกหนังสือแจ้งไปยังผู้ขึ้นบัญชีทุกคนให้มาเข้ารับการประเมินรวมบัญชีและจัดลำดับใหม่ตามความสมัครใจ

ทั้งนี้ ผู้ที่สมัครเข้ารับการประเมินเพื่อรวมบัญชี จะไม่เสียสิทธิ์ในบัญชีเดิม รวมทั้งยังคงระยะเวลาขึ้นบัญชีเท่าเดิม แต่จะได้รับสิทธิ์เพิ่มขึ้น คือมีชื่อขึ้นบัญชีในเขตเดิมและขึ้นบัญชีในเขตอื่นภายในจังหวัดด้วย แต่หากผู้ที่มีชื่อขึ้นบัญชีเดิมไม่สมัครรวมบัญชี ก็จะได้รับสิทธิ์ในบัญชีนั้นเช่นเดิม

เห็นชอบปรับปฏิทินกำหนดเวลาพิจารณาการย้ายครู รอบ 1 ปี 2559

จากการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งเรื่องการขับเคลื่อนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2559 ซึ่งเป็นห้วงเวลาคาบเกี่ยวกับการพิจารณาย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งครู สังกัด สพฐ. รอบ 1 ปีงบประมาณ 2559

เพื่อให้การย้ายข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาสามารถดำเนินการได้ภายใต้คำสั่งหัวหน้า คสช.ที่ประชุมจึงมีมติขยายเวลาการโยกย้ายเฉพาะรอบ 1 ปี 2559 จากเดือนเมษายน 2559 เป็นดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2559

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้มอบให้สำนักงาน ก.ค.ศ. ร่วมกับ สพฐ. หารือร่วมกันเกี่ยวกับการปรับปฏิทินการสอบแข่งขัน-บรรจุ-แต่งตั้ง-โยกย้าย ให้มีความสอดคล้องสัมพันธ์กันทั้งระบบ เพราะทุกส่วนมีความเชื่อมโยงกัน โดยอาจเริ่มจากกระบวนการโยกย้ายก่อน เพื่อให้ได้จำนวนอัตราตำแหน่งที่ว่าง จากนั้นจึงจะดูบัญชีรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ในแต่ละวิชาเอก หากมีบัญชีไม่เพียงพอหรือไม่มีบัญชีรายชื่อในสาขาวิชาใดก็ต้องเปิดสอบต่อไป

เห็นชอบตั้งอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับการกำกับ ติดตาม และประเมินผล

ที่ประชุมเห็นชอบให้ตั้งอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ.วิสามัญเกี่ยวกับการกำกับ ติดตาม และประเมินผลการบริหารงานบุคคล แทนตำแหน่งที่ว่าง 2 ตำแหน่ง ได้แก่

1) นายชาญเวช บุญประเดิม ตำแหน่ง รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการกำกับ ติดตาม และประเมินผลการบริหารงานบุคคล แทนนายธำรงค์ อุดมไพจิตรกุล
2) นายชาย มะลิลา ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นอนุกรรมการใน อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับการกำกับ ติดตาม และประเมินผลการบริหารงานบุคคล แทนศาสตราจารย์ สุวิมล ว่องวาณิช

เห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคล

ที่ประชุมเห็นชอบให้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการสอบแข่งขันเพื่อบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่งบุคลากรทางการศึกษาอื่นตามมาตรา 38 ค. (2) ดังนี้

1) หากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาหรือส่วนราชการต่างๆ มีตำแหน่งว่างและไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งว่างที่จะบรรจุและแต่งตั้ง สามารถขอใช้บัญชีรายชื่อ
ผู้สอบแข่งขันได้ของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาอื่นก่อน
2) หากไม่มีบัญชีผู้สอบแข่งขันได้ของ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษา ให้ขอจากบัญชีรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ ของ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง
3) หากไม่มีบัญชีรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ ของ อ.ก.ค.ศ. ที่ ก.ค.ศ. ตั้ง ให้ขอจากบัญชีรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ ในประเภทข้าราชการพลเรือนสามัญของส่วนราชการต้นสังกัด
4) หากไม่มีบัญชีรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ ของส่วนราชการต้นสังกัด ให้ขอจากบัญชีรายชื่อผู้สอบแข่งขันได้ ในประเภทข้าราชการพลเรือนสามัญของส่วนราชการอื่นได้
โดยทั้ง 4 ข้อดังกล่าวข้างต้น ต้องเป็นผู้สอบแข่งขันได้ในตำแหน่งเดียวกันกับตำแหน่งว่างที่จะใช้บรรจุและแต่งตั้ง และมีคุณวุฒิตรงตามมาตรฐานตำแหน่งที่จะบรรจุและแต่งตั้ง

ให้ผู้แทนครู ก.ค.ศ.ติดตามตรวจสอบการบิดเบือนข้อเท็จจริงเรื่องการศึกษา

รมว.ศึกษาธิการ ขอให้ผู้แทนครูใน ก.ค.ศ. ตรวจสอบเกี่ยวกับการโพสต์ข้อความบิดเบือนเรื่องการศึกษาทางสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเร็วๆ นี้ โดยแอบอ้างว่ามาจากชมรมครูร้อยเอ็ด จึงต้องการให้ผู้แทนครูช่วยกันหาความจริง แต่หากมาจากชมรมครูร้อยเอ็ดจริง ก็จะต้องเตือนให้หยุดการกระทำ ซึ่งเป็นการเข้าข่ายสร้างความแตกแยก แต่หากเตือนแล้วยังไม่หยุดบิดเบือนข้อมูล ก็คงจะมีหน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงเข้ามาดำเนินการต่อไป

ที่มา : ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button