ข่าวการศึกษา

คุรุสภาเร่งถกโมเดลมาตรฐานครูไทย ปั๊มแม่พิมพ์ 4.0 ตอบโจทย์ ‘บิ๊กตู่’

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม นายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า คุรุสภาขับเคลื่อนพัฒนามาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา ซึ่งเป็นไปตาม พ.ร.บ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2546 มาตรา 49 กำหนดให้มีข้อบังคับว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ 3 ข้อ ดังนั้น คุรุสภาสามารถตอบโจทย์การดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาครูและมาตรฐานการผลิตครูของประเทศไทย และตอบโจทย์การสอนให้ผู้เรียนมีความรู้ เพื่อพัฒนาสังคม และเพิ่มศักยภาพประเทศไทย 4.0 ได้ทันท่วงที ต่อยอดจากสิ่งเดิมที่ขับเคลื่อนอยู่แล้ว และไม่ได้เริ่มจากศูนย์ จึงเร่งสังเคราะห์ และสรุปแนวทางพัฒนามาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษาอย่างเร่งด่วน

นายสมศักดิ์กล่าวอีกว่า คุรุสภาได้หารือร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน โดยนายไพฑูรย์ สินลารัตน์ ผู้ทรงคุณวุฒิ เป็นประธาน เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนามาตรฐานวิชาชีพทางการศึกษา ที่มีรายละเอียดกระชับ ชัดเจน วัดได้ เหมาะสมกับวิชาชีพปัจจุบัน และสอดคล้องมาตรฐานวิชาชีพระดับสากล โดยยึดมาตรฐานวิชาชีพตาม พ.ร.บ.สภาครูฯ มาตรา 49 เป็นแกนกลางของวิชาชีพครู เน้นให้ครูเปลี่ยน ปรับปรุงตนเองได้เสมอตามกาลเวลาที่เปลี่ยนไป และแต่ละยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไปครูต้องมีหลักคิดของตนเองเสมอ รวมทั้งปฏิบัติตามข้อสรุปการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ประเด็นการพัฒนากรอบสมรรถนะวิชาชีพครูอาเซียน ซึ่งที่ประชุมได้หารือ เช่น แนวทางการนำมาตรฐานครูไปสู่การปฏิบัติ เชื่อมโยงกับมาตรฐานของหน่วยผลิตครู สถาบันผลิตครูควรมีรายวิชาสอนผู้เรียนวิชาชีพครูมีเจตคติ และจิตวิญญาณความเป็นครู รวมทั้ง แนวทางการฝึกประสบการณ์วิชาชีพระหว่างเรียนควรเริ่มตั้งแต่ชั้นปีที่ 1 และกำหนดสมรรถนะความเป็นครูที่ชัดเจน ฯลฯ

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

“เบื้องต้นได้กำหนดกรอบแนวทางการพัฒนามาตรฐานวิชาชีพครู ยึดเกณฑ์ที่เป็นคุณลักษณะและสมรรถนะครูที่มีทั้งความรู้ ความคิด ทักษะ และคุณธรรมครบถ้วน แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ประกอบด้วย

1.ครูปฏิบัติการ มีความรู้ปฏิบัติการสอนในชั้นพัฒนางานได้
2.ครูชำนาญการ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คิดใหม่ ปรับปรุงแสวงหาวิธีการสอนใหม่ๆ ทันสมัยเสมอ
3.ครูเชี่ยวชาญ มีความชำนาญ รู้ลึกซึ้ง บูรณาการในการสอนได้ สร้างและพัฒนาทักษะใหม่เพื่อเด็ก และ
4.ครูทรงคุณวุฒิ คิดสร้างสรรค์องค์ความรู้ใหม่ ตกผลึกในความคิด คาดคะเนได้

สำหรับประเด็นอื่นๆ เช่น การต่อใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูยังดำเนินการเหมือนเดิม และควรมีการพัฒนามาตรฐานสถาบันผลิตครูด้วยพร้อมกันไป ซึ่งสำนักงานเลขาธิการคุรุสภาจะเร่งสังเคราะห์ข้อมูลสรุปเสนอต่อคณะกรรมการคุรุสภา และเตรียมจัดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนามาตรฐานวิชาชีพครูครั้งใหญ่ช่วงต้นเดือนมิถุนายนนี้” นายสมศักดิ์กล่าว

ที่มาของข่าวการศึกษา : มติชน

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button