ข่าวการศึกษาหนังสือราชการ

ม.44 แก้ไขการปฏิบัติหน้าที่บอร์ดคุรุสภา บอร์ด สกสค. และบอร์ดองค์การค้าของ สกสค.

เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ เผยแพร่คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๗/๒๕๖๐ เกี่ยวกับการแก้ไขการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการ สกสค. และคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของ สกสค. มีผลตั้งแต่วันที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ เป็นต้นไป

ม.44 แก้ไขการปฏิบัติหน้าที่บอร์ดคุรุสภา บอร์ด สกสค. และบอร์ดองค์การค้าของ สกสค.

ติดตามข่าวอื่น ๆ ได้ที่เพจ : https://www.facebook.com/rukkroo

คำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ที่ ๑๗/๒๕๖๐
เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๗/๒๕๕๘

โดยที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมไปถึงสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้บริหารสภาดังกล่าว เป็นผู้มีบทบาทสำคัญต่อการจัดการศึกษาของชาติ การพัฒนาวิชาชีพครู และการกำหนดมาตรฐานในการประกอบวิชาชีพ การมีคุณธรรม จริยธรรม และการประพฤติตน ตามจรรยาบรรณของวิชาชีพ ด้วยเหตุนี้ การได้มาซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งในคณะกรรมการและผู้บริหารขององค์กร จึงสมควรเป็นไปโดยปราศจากซึ่งการโต้แย้งหรือคัดค้าน และไม่ควรว่างเว้นซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวเป็นเวลานานอันจะทำให้เกิดการชะงักงันในการทำหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด จึงมีความจำเป็นที่ต้องกำหนดมาตรการหรือกลไกที่เหมาะสมเพื่อให้ได้มาซึ่งผู้ดำรงตำแหน่งที่มีความรู้ ความสามารถ คุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสมกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูงโดยเร็ว ซึ่งมาตรการและกลไกนี้เป็นส่วนสำคัญในการเตรียมการเบื้องต้นอันจะเป็นประโยชน์ต่อการปฏิรูประบบศึกษาของประเทศก่อนที่จะมีการดำเนินการปฏิรูปอย่างเต็มรูปแบบตามที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับที่ผ่านประชามติได้กำหนดแนวทางไว้

อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้

ข้อ ๑ ให้ยกเลิกความในข้อ ๒ ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๗/๒๕๕๘ เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ลงวันที่ ๑๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๘ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

     “ให้คณะกรรมการคุรุสภาตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานกรรมการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เลขาธิการ ก.ค.ศ. เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และหัวหน้าสำนักงานคณะกรรมการมาตรฐาน การบริหารงานบุคคลส่วนท้องถิ่น เป็นกรรมการ และให้เลขาธิการคุรุสภาเป็นกรรมการและเลขานุการ”

ข้อ ๒ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ ของข้อ ๖ ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๗/๒๕๕๘ เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ลงวันที่ ๑๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๘

     “ในกรณีที่เห็นสมควร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการอาจให้คณะกรรมการคุรุสภาและคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาตามคำสั่งนี้ แล้วแต่กรณีดำเนินการสรรหาและแต่งตั้งเลขาธิการคุรุสภา เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา และผู้อำนวยการองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ตามกฎหมายว่าด้วยสภาครูและบุคลากรทางการศึกษา
การสรรหาบุคคลเพื่อดำรงตำแหน่งตามวรรคสอง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกำหนด และในกรณีที่บุคคลใดซึ่งได้รับการสรรหาและแต่งตั้งตามวรรคสองเป็นข้าราชการ บุคคลนั้นต้องลาออกจากราชการก่อนที่จะเข้ารับตำแหน่ง
ให้ผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งตามวรรคสอง มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี”

ข้อ ๓ ให้ยกเลิกข้อ ๘ ของคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๗/๒๕๕๘ เรื่อง การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการคุรุสภา คณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา และคณะกรรมการบริหารองค์การค้าของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา ลงวันที่ ๑๖ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๕๘

ข้อ ๔ ในกรณีเห็นสมควรนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีอาจเสนอให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำสั่งนี้ได้

ข้อ ๕ คำสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป

สั่ง ณ วันที่ ๒๑ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๐
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

อ้างจาก : ราชกิจจานุเบกษา

เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ

Back to top button